จิตสำนึก (1.ธิดารัตน์)
๏ ความหยั่งรู้นี้ดี หากเรามีจะสุขล้น
ไม่เสียเกิดเป็นคน มิหมองหม่นรู้ชั่วดี
๏ เป็นคนหากทําผิด รู้จักคิดในสิ่งดี
แก้ไขผิดพลาดนี้ ก็ยังเรียกได้ว่าคน
๏ สัตว์มิรู้ผิดชั่ว ไม่รู้ตัวผิดในตน
ไม่รู้ความหมองหม่น ดั่งมิมีจิตวิญญาณ
๏ พูดถึงจิตสํานึก คงต้องนึกถึงตัวญาณ
คือรู้ตัวตลอดกาล ดั่งมีสติอยู่ในกาย
๏ จิตสํานึกในตัว มีกันทั่วและหลากหลาย
จะติดไปจนตาย ให้เรานั้นได้จดจํา
๏ จิตสํานึกที่ดี เรานั้นมีได้ทั้งนั้น
อยู่ที่เราบากบั่น ลงมือสร้างสิ่งดีดีฯ
......................(1.ธิดารัตน์).......................
จิตสำนึก (2.กัญญารัตน์)
๏ โลกาในยุคนี้ ผืนพงพีเกือบสิ้นสูญ
สัตว์ป่าไม่วิบูลย์ คลายจำรูญพูนสุขสันต์
๏ พายุโหมกระหน่ำ แสนชอกช้ำแผ่นดินสั่น
น้ำท่วมทุกทุกวัน มิเฉิดฉันท์พลันหมองมัว
๏ ความตายมาเยือนถิ่น ที่ทำกินชาวชนทั่ว
ชนพรากจากครอบครัว มืดสลัวด้วยโศกา
๏ วันนี้โลกดั่งไฟ เกิดจากใครไซร้ประชา
ตัดไม้ทำลายป่า เพราะนราไร้สำนึก
๏ โรงงานอุตสาหกรรม ปล่อยควันดำห่างตรองตรึก
น้ำเสียมากล้นลึก ปลากุ้งหมึกลอยเป็นแพ
๏ เกิดจากมือของคน เห็นแก่ตนโลภมากแท้
เมตตาแลเผื่อแผ่ แค่สักนิดแทบไม่มี
๏ ถ้าหากเรากลับใจ โดยเร็วไวมิเสื่อมศรี
มาร่วมกันทำดี จะสุขีด้วยสิ่งงามฯ
.........................(2.กัญญารัตน์)............................
สะกิด...จิตสำนึก (3.ณัฐกาญน์)
๏ เราเกิดเป็นมนุษย์ สำคัญสุดต้องตรองตรึก
ปลูกฝังจิตสำนึก ให้หยั่งลึกเป็นสันดาน
๏ โบราณกาลก่อนเก่า เลื่องลือเล่าเขาขับขาน
ธรรมชาติงามตระการ เรืองโอฬารอร่ามตา
๏ ทุ่งหญ้าวนาลี เขียวขจีทุกทิศา
หอมกรุ่นอุ่นอุรา ทุกคราวคราครั้งดอมดม
๏ พฤกษาเบิกเบ่งบาน เสียงลำธารผสานสม
ซาบซ่านชวนชื่นชม เริงภิรมย์รื่นฤดี
๏ สัตว์ป่าทั้งน้อยใหญ่ อยู่อาศัยอย่างสุขศรี
สมดุลอย่างพอดี เอื้อชีวีกันและกัน
๏ แต่ว่าเพลานี้ ทุกวิถีเปลี่ยนแปรผัน
ป่าหายมิเว้นวัน สำนึกนั้นลบเลือนราง
๏ มนุษย์มีชีวิต แต่ไร้จิตคิดสรรค์สร้าง
ทำลายทุกหนทาง เริ่มแรมร้างความปรานี
๏ เพลิงไฟที่ปะทุ ร้อนระอุทุกถิ่นที่
สัตว์ป่า พนาลี สิ้นชีวีด้วยมือคน
๏ เหลือเพียงผงธุลี เหยียบย่ำยีทุกแห่งหน
แม้แต่ชีวิตคน แสนทุกข์ทนทรมาน
๏ ฉุกคิดกันสักนิด เมตตาจิตคิดสงสาร
ลูกหลานยังอยู่นาน เขาสืบสานสกุลใครฯ
...........................(3.ณัฐกาญน์)................................
จิตสำนึก (4.นันทนา)
๏ บนเส้นทางชีวิต มีดวงจิตลิขิตเขียน
ทุกข์สุขผลัดหมุนเวียน ย่อมแปรเปลี่ยนตามเวลา
๏ ดีชั่วตัวกระทำ ผลของกรรมน้อมนำมา
ทำดีย่อมปรีดา ทำชั่วช้าย่อมอับจน
๏ หนทางของชีวิต ให้พินิจคิดเหตุผล
จะสุขหรือทุกข์ทน ควรทำตนเป็นอย่างไร
๏ ได้ชื่อว่ามนุษย์ ประเสริฐสุดเหนือสิ่งใด
ตั้งมั่นทำดีไซร้ สร้างจิตให้กรุณา
๏ มนุษย์ต้องไม่โกรธ ไม่ถือโทษริษยา
มนุษย์ต้องเมตตา ถ้อยวาจาต้องปรานี
๏ มนุษย์ต้องซื่อสัตย์ มัธยัสถ์รักษ์ศักดิ์ศรี
มนุษย์เสริมไมตรี สามัคคีมีน้ำใจ
๏ มนุษย์กตัญญู สนองรู้คุณผู้ให้
มนุษย์เคร่งวินัย อีกรับใช้ผืนแผ่นดิน
๏ ประดุจทรัพย์สมบัติ ที่เด่นชัดมิรู้สิ้น
สถิตย์ในดวงจินต์ ทั่วทุกคนตลอดกาล
๏ หากแม้นนำมาใช้ ประโยชน์ได้มหาศาล
ยกตนพ้นเขตมาร เดรัจฉานบ่กร้ำกราย
๏ รวมเรียกจิตสำนึก ที่ตราตรึกมิรู้หาย
คงอยู่คู่กับกาย มนุษย์ไปตราบสิ้นลมฯ
...........................(4.นันทนา)...................................
จิตสำนึก (5.แมน)
๏ บ้านเมืองช่างเคืองขุ่น ต่างวายวุ่นมุ่นตัณหา
เสียงปืนกลืนประชา เสียงด่ารบกลบเสียงธรรม์
๏ ทุกมือถืออาวุธ เข้าเร่งรุดจุดห้ำหั่น
เหตุการณ์ผลาญชีวัน บั่นรกรากซากแผ่นดิน
๏ แผ่นฟ้าน้ำตาช้ำ ถึงแผ่นน้ำซ้ำราคิน
แผ่นภพต้องจบสิ้น แผ่นโลกดิ้นรินอบาย
๏ เริ่มแรกแทรกอำนาจ ผู้นำชาติวาดจำหน่าย
เปิดโชว์นโยบาย ขายแผ่นดินรับสินบน
๏ ชีวิตเดินผิดเภท โกงประเทศสังเวชตน
ศรัทธามาปราบปล้น คนจัญไรใจอัปรีย์
๏ แม้สัตว์เดียรัจฉาน ยังรู้การงานหน้าที่
สัตย์ซื่อสื่อความดี วิถีสัตว์น่าศรัทธา
๏ กำเนิดเกิดเป็นคน ประเสริฐล้นเหนือหมูหมา
สำนึกที่ตรึกตรา น่าอายหมาน่าบัดสี
๏ จิตสำนึกผนึกชาติ ประชาราษฎร์วาดวิถี
เสริมทางสร้างความดี มีสัจจาคำว่าคน
๏ หลักการประสานค่า เชิดธรรมมามหาชน
ต่อมใต้สมองตน เปี่ยมล้นรักภักดิ์ดินแดน
๏ รู้รักสมัครมั่น เลือดไทยนั้นหมั่นหวงแหน
จิตสำนึกผนึกแน่น หวังทดแทนหนี้แผ่นดินฯ
..............................(5.แมน)........................................
จิตสำนึก (6.แมน) (แก้ไขครั้งที่ 1)
๏ บ้านเมืองช่างเคืองขุ่น ต่างวายวุ่นมุ่นตัณหา
เสียงปืนกลืนประชา เสียงด่ารบกลบเสียงธรรม์
๏ ทุกมือถืออาวุธ เข้าเร่งรุดจุดห้ำหั่น
เหตุการณ์ผลาญชีวัน บั่นรกรากซากแผ่นดิน
๏ แผ่นฟ้าน้ำตาช้ำ ถึงแผ่นน้ำซ้ำราคิน
แผ่นภพต้องจบสิ้น แผ่นโลกดิ้นรินอบาย
๏ เริ่มแรกแทรกอำนาจ ผู้นำชาติวาดจำหน่าย
เปิดโชว์นโยบาย ขายแผ่นดินรับสินบน
๏ ชีวิตเดินผิดเภท โกงประเทศสังเวชตน
ศรัทธามาปราบปล้น คนจัญไรใจอัปรีย์
๏ แม้สัตว์เดียรัจฉาน ยังรู้การงานหน้าที่
สัตย์ซื่อสื่อความดี วิถีสัตว์น่าศรัทธา
๏ กำเนิดเกิดเป็นคน ประเสริฐล้นเหนือหมูหมา
สำนึกที่ตรึกตรา น่าอายสัตว์น่าบัดสี
๏ จิตสำนึกผนึกชาติ ประชาราษฎร์วาดวิถี
เสริมทางสร้างความดี มีสัจจาคำว่าคน
๏ หลักการประสานค่า เชิดธรรมามหาชน
ต่อมใต้สมองตน เปี่ยมล้นรักภักดิ์ดินแดน
๏ รู้รักสมัครมั่น เลือดไทยนั้นหมั่นหวงแหน
จิตสำนึกผนึกแน่น หวังทดแทนหนี้แผ่นดินฯ
..............................(6.แมน)........................................
จิตสำนึก (7.กัญกาญจน์)
๏ อดีตไทยเคยสุข ด้วยประมุขคุ้มเกศี
เลิกทาสชนเปรมปรีดิ์ พระบารมีคอยเมตตา
๏ สังคมปัจจุบัน มุ่งฆ่าฟันสร้างปัญหา
ฆ่าแกงแล้งธรรมา นี่แหละหนาสันดานคน
๏ โกงชาติหวังได้ชาติ ใช้อำนาจหวังวาดผล
หลอกลวงประชาชน ติดสินบน คน หรือ มาร
๏ อำนาจแทรกแซงสื่อ ใช้สองมือชี้ หลังม่าน
ชาติไทยถูกรุกราน ก่อเหตุร้ายที่ชายแดน
๏ ผู้หญิงโดนขืนข่ม ชาย สุขสม หญิง ทุกข์แสน
เพียงเพราะเงินขาดแคลน จึงจำนนขายพรหมจรรย์
๏ คนชั่วคุมสังคม จากสุขสมกลับพลิกผัน
สิ่งดีเคยให้กัน ถูกเสกสรรให้หมดไป
๏ หยุดเถิดทำลายชาติ หยุดฉ้อราษฎร์หวังสุขใส
หยุดคิดขายชาติไทย หยุดเอาไว้ในใจตัว
๏ เพื่อตนพ้นกิเลส เพื่อประเทศพ้นความชั่ว
เพื่อชนพ้นหมองมัว เพื่อสังคมสุขร่มเย็นฯ
.................................(7.กัญกาญจน์)......................
จิตสำนึก (8.แพรวพรรณ)
๏ คนมีจิตสำนึก นั้นล้ำลึกในอารมณ์
มีคุณต่อสังคม สำนึกนำทำความดี
๏ เทิดภักดิ์รักองค์ราช ทั้งรักชาติรักศาสน์ศรี
รักบุพการี กตัญญูรู้แทนคุณ
๏ น้อมนบเคารพครู ท่านคือปูชนีย์หนุน
รู้บาปและรู้บุญ จุนเจือจานสานสุขชน
๏ สำนึกในหน้าที่ คือทำดีมีเหตุผล
นำหนุนคุณค่าคน คู่สังคมชมชื่นไทย
๏ รู้คุณและรู้โทษ รู้ประโยชน์อันยาวไกล
รู้แพ้รู้อภัย ไม่ขัดแย้งแบ่งเผ่าพันธุ์
๏ ทำดีสำนึกดี สัมคมมีศรีสุขสันต์
น้ำใจให้แบ่งปัน มั่นในธรรมสุขจำเริญฯ
..(8.แพรวพรรณ)...............................