ReadyPlanet.com
dot dot
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (กาพย์ยานี 11) : หัวข้อ “จิตสำนึก”

จิตสำนึก (1.ธิดารัตน์)

๏ ความหยั่งรู้นี้ดี              หากเรามีจะสุขล้น

ไม่เสียเกิดเป็นคน            มิหมองหม่นรู้ชั่วดี

เป็นคนหากทําผิด          รู้จักคิดในสิ่งดี

แก้ไขผิดพลาดนี้               ก็ยังเรียกได้ว่าคน

สัตว์มิรู้ผิดชั่ว                 ไม่รู้ตัวผิดในตน

ไม่รู้ความหมองหม่น        ดั่งมิมีจิตวิญญาณ

พูดถึงจิตสํานึก               คงต้องนึกถึงตัวญาณ

คือรู้ตัวตลอดกาล              ดั่งมีสติอยู่ในกาย

จิตสํานึกในตัว               มีกันทั่วและหลากหลาย

จะติดไปจนตาย                ให้เรานั้นได้จดจํา

จิตสํานึกที่ดี                   เรานั้นมีได้ทั้งนั้น

อยู่ที่เราบากบั่น            ลงมือสร้างสิ่งดีดีฯ

......................(1.ธิดารัตน์).......................

 

จิตสำนึก (2.กัญญารัตน์)

๏ โลกาในยุคนี้                                ผืนพงพีเกือบสิ้นสูญ

สัตว์ป่าไม่วิบูลย์                                คลายจำรูญพูนสุขสันต์

๏ พายุโหมกระหน่ำ                        แสนชอกช้ำแผ่นดินสั่น

น้ำท่วมทุกทุกวัน                             มิเฉิดฉันท์พลันหมองมัว

๏ ความตายมาเยือนถิ่น                    ที่ทำกินชาวชนทั่ว

ชนพรากจากครอบครัว                    มืดสลัวด้วยโศกา

๏ วันนี้โลกดั่งไฟ                              เกิดจากใครไซร้ประชา

ตัดไม้ทำลายป่า                                 เพราะนราไร้สำนึก

๏ โรงงานอุตสาหกรรม                   ปล่อยควันดำห่างตรองตรึก

น้ำเสียมากล้นลึก                             ปลากุ้งหมึกลอยเป็นแพ

๏ เกิดจากมือของคน                        เห็นแก่ตนโลภมากแท้

เมตตาแลเผื่อแผ่                               แค่สักนิดแทบไม่มี

๏ ถ้าหากเรากลับใจ                        โดยเร็วไวมิเสื่อมศรี

มาร่วมกันทำดี                                  จะสุขีด้วยสิ่งงามฯ

.........................(2.กัญญารัตน์)............................

 

สะกิด...จิตสำนึก (3.ณัฐกาญน์)

๏ เราเกิดเป็นมนุษย์                            สำคัญสุดต้องตรองตรึก

ปลูกฝังจิตสำนึก                                   ให้หยั่งลึกเป็นสันดาน

๏ โบราณกาลก่อนเก่า                        เลื่องลือเล่าเขาขับขาน

ธรรมชาติงามตระการ                        เรืองโอฬารอร่ามตา

๏ ทุ่งหญ้าวนาลี                                   เขียวขจีทุกทิศา

หอมกรุ่นอุ่นอุรา                                  ทุกคราวคราครั้งดอมดม

๏ พฤกษาเบิกเบ่งบาน                        เสียงลำธารผสานสม

ซาบซ่านชวนชื่นชม                           เริงภิรมย์รื่นฤดี

๏ สัตว์ป่าทั้งน้อยใหญ่                        อยู่อาศัยอย่างสุขศรี

สมดุลอย่างพอดี                                   เอื้อชีวีกันและกัน

๏ แต่ว่าเพลานี้                                     ทุกวิถีเปลี่ยนแปรผัน

ป่าหายมิเว้นวัน                                    สำนึกนั้นลบเลือนราง

๏ มนุษย์มีชีวิต                                     แต่ไร้จิตคิดสรรค์สร้าง

ทำลายทุกหนทาง                                เริ่มแรมร้างความปรานี

๏ เพลิงไฟที่ปะทุ                                 ร้อนระอุทุกถิ่นที่

สัตว์ป่า พนาลี                                      สิ้นชีวีด้วยมือคน

๏ เหลือเพียงผงธุลี                              เหยียบย่ำยีทุกแห่งหน

แม้แต่ชีวิตคน                                       แสนทุกข์ทนทรมาน

๏ ฉุกคิดกันสักนิด                               เมตตาจิตคิดสงสาร

ลูกหลานยังอยู่นาน                             เขาสืบสานสกุลใครฯ

...........................(3.ณัฐกาญน์)................................

 

จิตสำนึก (4.นันทนา)

บนเส้นทางชีวิต                       มีดวงจิตลิขิตเขียน

ทุกข์สุขผลัดหมุนเวียน                   ย่อมแปรเปลี่ยนตามเวลา

ดีชั่วตัวกระทำ                           ผลของกรรมน้อมนำมา

ทำดีย่อมปรีดา                               ทำชั่วช้าย่อมอับจน

หนทางของชีวิต                         ให้พินิจคิดเหตุผล

จะสุขหรือทุกข์ทน                         ควรทำตนเป็นอย่างไร

ได้ชื่อว่ามนุษย์                          ประเสริฐสุดเหนือสิ่งใด

ตั้งมั่นทำดีไซร้                              สร้างจิตให้กรุณา

มนุษย์ต้องไม่โกรธ                   ไม่ถือโทษริษยา

มนุษย์ต้องเมตตา                           ถ้อยวาจาต้องปรานี

มนุษย์ต้องซื่อสัตย์                     มัธยัสถ์รักษ์ศักดิ์ศรี

มนุษย์เสริมไมตรี                          สามัคคีมีน้ำใจ

มนุษย์กตัญญู                            สนองรู้คุณผู้ให้

มนุษย์เคร่งวินัย                            อีกรับใช้ผืนแผ่นดิน

ประดุจทรัพย์สมบัติ                   ที่เด่นชัดมิรู้สิ้น

สถิตย์ในดวงจินต์                        ทั่วทุกคนตลอดกาล

หากแม้นนำมาใช้                      ประโยชน์ได้มหาศาล

ยกตนพ้นเขตมาร                         เดรัจฉานบ่กร้ำกราย

รวมเรียกจิตสำนึก                       ที่ตราตรึกมิรู้หาย

คงอยู่คู่กับกาย                              มนุษย์ไปตราบสิ้นลมฯ

...........................(4.นันทนา)...................................

 

จิตสำนึก (5.แมน)

บ้านเมืองช่างเคืองขุ่น                    ต่างวายวุ่นมุ่นตัณหา

เสียงปืนกลืนประชา                           เสียงด่ารบกลบเสียงธรรม์

ทุกมือถืออาวุธ                                 เข้าเร่งรุดจุดห้ำหั่น

เหตุการณ์ผลาญชีวัน                          บั่นรกรากซากแผ่นดิน

แผ่นฟ้าน้ำตาช้ำ                               ถึงแผ่นน้ำซ้ำราคิน

แผ่นภพต้องจบสิ้น                              แผ่นโลกดิ้นรินอบาย

เริ่มแรกแทรกอำนาจ                      ผู้นำชาติวาดจำหน่าย

เปิดโชว์นโยบาย                                  ขายแผ่นดินรับสินบน

ชีวิตเดินผิดเภท                                โกงประเทศสังเวชตน

ศรัทธามาปราบปล้น                           คนจัญไรใจอัปรีย์

แม้สัตว์เดียรัจฉาน                           ยังรู้การงานหน้าที่

สัตย์ซื่อสื่อความดี                                วิถีสัตว์น่าศรัทธา

กำเนิดเกิดเป็นคน                           ประเสริฐล้นเหนือหมูหมา

สำนึกที่ตรึกตรา                                   น่าอายหมาน่าบัดสี

จิตสำนึกผนึกชาติ                           ประชาราษฎร์วาดวิถี

เสริมทางสร้างความดี                         มีสัจจาคำว่าคน

หลักการประสานค่า                       เชิดธรรมมามหาชน

ต่อมใต้สมองตน                                  เปี่ยมล้นรักภักดิ์ดินแดน

รู้รักสมัครมั่น                                   เลือดไทยนั้นหมั่นหวงแหน

จิตสำนึกผนึกแน่น                              หวังทดแทนหนี้แผ่นดินฯ

..............................(5.แมน)........................................

 

จิตสำนึก (6.แมน) (แก้ไขครั้งที่ 1)

บ้านเมืองช่างเคืองขุ่น                    ต่างวายวุ่นมุ่นตัณหา

เสียงปืนกลืนประชา                           เสียงด่ารบกลบเสียงธรรม์

ทุกมือถืออาวุธ                                 เข้าเร่งรุดจุดห้ำหั่น

เหตุการณ์ผลาญชีวัน                          บั่นรกรากซากแผ่นดิน

แผ่นฟ้าน้ำตาช้ำ                               ถึงแผ่นน้ำซ้ำราคิน

แผ่นภพต้องจบสิ้น                              แผ่นโลกดิ้นรินอบาย

เริ่มแรกแทรกอำนาจ                      ผู้นำชาติวาดจำหน่าย

เปิดโชว์นโยบาย                                  ขายแผ่นดินรับสินบน

ชีวิตเดินผิดเภท                                โกงประเทศสังเวชตน

ศรัทธามาปราบปล้น                           คนจัญไรใจอัปรีย์

แม้สัตว์เดียรัจฉาน                           ยังรู้การงานหน้าที่

สัตย์ซื่อสื่อความดี                                วิถีสัตว์น่าศรัทธา

กำเนิดเกิดเป็นคน                           ประเสริฐล้นเหนือหมูหมา

สำนึกที่ตรึกตรา                                   น่าอายสัตว์น่าบัดสี

จิตสำนึกผนึกชาติ                           ประชาราษฎร์วาดวิถี

เสริมทางสร้างความดี                         มีสัจจาคำว่าคน

หลักการประสานค่า                       เชิดธรรมามหาชน

ต่อมใต้สมองตน                                  เปี่ยมล้นรักภักดิ์ดินแดน

รู้รักสมัครมั่น                                   เลือดไทยนั้นหมั่นหวงแหน

จิตสำนึกผนึกแน่น                              หวังทดแทนหนี้แผ่นดินฯ

..............................(6.แมน)........................................

 

จิตสำนึก (7.กัญกาญจน์)

อดีตไทยเคยสุข                             ด้วยประมุขคุ้มเกศี

เลิกทาสชนเปรมปรีดิ์                        พระบารมีคอยเมตตา

สังคมปัจจุบัน                                 มุ่งฆ่าฟันสร้างปัญหา

ฆ่าแกงแล้งธรรมา                             นี่แหละหนาสันดานคน

โกงชาติหวังได้ชาติ                        ใช้อำนาจหวังวาดผล

หลอกลวงประชาชน                         ติดสินบน คน หรือ มาร

อำนาจแทรกแซงสื่อ                      ใช้สองมือชี้  หลังม่าน

ชาติไทยถูกรุกราน                             ก่อเหตุร้ายที่ชายแดน

ผู้หญิงโดนขืนข่ม                        ชาย สุขสม หญิง ทุกข์แสน

เพียงเพราะเงินขาดแคลน               จึงจำนนขายพรหมจรรย์

คนชั่วคุมสังคม                               จากสุขสมกลับพลิกผัน

สิ่งดีเคยให้กัน                                   ถูกเสกสรรให้หมดไป

หยุดเถิดทำลายชาติ                      หยุดฉ้อราษฎร์หวังสุขใส

หยุดคิดขายชาติไทย                         หยุดเอาไว้ในใจตัว

เพื่อตนพ้นกิเลส                          เพื่อประเทศพ้นความชั่ว

เพื่อชนพ้นหมองมัว                      เพื่อสังคมสุขร่มเย็นฯ

.................................(7.กัญกาญจน์)......................

 

จิตสำนึก (8.แพรวพรรณ)

๏ คนมีจิตสำนึก                                   นั้นล้ำลึกในอารมณ์

มีคุณต่อสังคม                                      สำนึกนำทำความดี

๏ เทิดภักดิ์รักองค์ราช                        ทั้งรักชาติรักศาสน์ศรี

รักบุพการี                                              กตัญญูรู้แทนคุณ

๏ น้อมนบเคารพครู                            ท่านคือปูชนีย์หนุน

รู้บาปและรู้บุญ                                     จุนเจือจานสานสุขชน

๏ สำนึกในหน้าที่                                คือทำดีมีเหตุผล

นำหนุนคุณค่าคน                                คู่สังคมชมชื่นไทย

๏ รู้คุณและรู้โทษ                                รู้ประโยชน์อันยาวไกล

รู้แพ้รู้อภัย                                             ไม่ขัดแย้งแบ่งเผ่าพันธุ์

๏ ทำดีสำนึกดี                                      สัมคมมีศรีสุขสันต์

น้ำใจให้แบ่งปัน                                   มั่นในธรรมสุขจำเริญฯ

…………………..(8.แพรวพรรณ)...............................




กาพย์ยานี ๑๑ 2552

ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (กาพย์ยานี 11) : หัวข้อ “บทกวีกับสังคม”
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (กาพย์ยานี 11) : หัวข้อ “ทางด่วน”



bulletผลร้อยกรองออนไลน์ 2558
dot
ประกวดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่ 7
dot
bulletข้อมูลการประกวดครั้งที่ 7, 2557
bulletผังร้อยกรอง
bulletอ่านโคลงประกวด 2557
bulletอ่านกลอนประกวด 2557
bulletอ่านกาพย์ยานีประกวด 2557
bulletผลการประกวดร้อยกรอง ปี 2557
dot
ข่าวสาร ข้อมูลสมาคม
dot
bulletกรรมการสมาคมสมัยที่ ๑๕-๑๖
bulletนายกสมาคมสมัยที่ ๑๗
bulletติดต่อนายกสมาคมนักกลอน
bulletติดต่อฝ่ายดูแลส่วนต่างๆ
bulletสมัครสมาชิกสมาคมนักกลอน
bulletนักกลอนตัวอย่าง ๒๕๕๓
dot
หัวข้อน่าสนใจ
dot
bulletรวมลิ้งค์เว็บไซต์น่าสนใจ
bulletส่งบทสักวา น.ส.พ. สยามรัฐ
bulletวารสารวิทยาจารย์ รับต้นฉบับ
bulletส่งข้อเขียนครูในดวงใจ
dot
แนะนำหนังสือ
dot
bulletหน้ารวมหนังสือ
bulletคู่มือเรียนเขียนกลอน
bulletกาสรคำฉันท์ - สมคิด สิงสง
bulletหนังสือสุรินทร์สโมสร
bulletฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ - กอนกูย
bulletเลือน - อติภพ
bulletธาร ธรรมโฆษณ์
bulletนายทิวา
bulletกลอนเกียรติยศ
bulletอ้อมกอดแห่งท้องทุ่ง
bulletทองแถม นาถจำนง
bulletพงศาวดารพิภพ
bulletโป๊ยเซียน คะนองฤทธิ์
dot
โครงการประกวดต่างๆ
dot
bulletนายอินทร์อะวอร์ด ๒๕๕๖
bulletประกวดรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลวรรณกรรมรามคำแหง ๒๕๕๖
dot
ผลตัดสินรางวัลต่างๆ
dot
bulletรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletผลรางวัลซีไรต์ ๒๕๕๗
bulletผลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ๒๕๕๗
bulletผลรางวัลแว่นแก้ว ๗ (๒๕๕๓)
bulletผลกลอนวิถีคนกับควาย
bulletผลร้อยกรอง “ผมจะเป็นคนดี”
bulletรางวัลนราธิป ๒๕๕๓
bulletนักเขียนอมตะ คนที่ ๖ (๒๕๕๕)
bulletนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletศิลปินมรดกอีสาน ๒๕๕๔
bulletผลรางวัลพานแว่นฟ้า ๒๕๕๕
bulletผลรางวัลรามคำแหง ๒๕๕๖
bulletศิลปินแห่งชาติ ๒๕๕๕
bulletผลประกวดหนังสือ ชีวิตใหม่ 2
dot
ข่าวคราวของลมหายใจ
dot
dot
Weblink
dot
bulletอ่านกลอนประกวด 2556

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย มศว
เว็บรวมกระทู้ อาศรมชาวโคลง ใน pantip.com
หนังสืออีศาน


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ติดต่อ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ทองแถม นาถจำนง
โทรศัพท์ ๐๘๙-๑๒๓๔๗๕๔ อีเมล์ tongtham.n@hotmail.com

สำนักพิมพ์แม่โพสพ