มุทิตาบูชาครูวันสุนทรภู่ที่ราชภัฏมหาสารคาม
รายงานวรรณกรรม / นิตยา เพ็งแก้ว
ในแวดวงวรรณกรรมคงไม่มีใครปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของสุนทรภู่ได้ ท่านได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นกวีเอกของโลก กวีรุ่นหลังต่างได้รับอิทธิพลจากการศึกษางานเขียนของท่าน และยึดถือท่านเป็นครูต้นแบบในการประพันธ์ทั้งสิ้น ดังนั้นทางราชการจึงถือเอาวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี อันเป็นวันเกิดของท่าน ประกาศให้เป็น “วันสุนทรภู่” และสถาบันการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแวดวงวรรณกรรม ก็ถือเอาวันนี้จัดกิจกรรมเพื่อแสดงถึงความกตัญญูต่อคุณูปการที่ท่านมีให้กับวงการวรรณกรรมไทย
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม โดยสาขาวิชาภาษาไทยทั้งสองคณะ คือคณะครุศาสตร์และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันสุนทรภู่ขึ้นในวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2553 ณ โรงยิมเนเซียม อาคารพลศึกษา แม้บรรยากาศจะอบอ้าวไปหน่อยก็ไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจกรรมแต่อย่างใด บางคนก็ปลอบใจตัวเองว่า ถือเป็นการปรับให้เข้ากับเทศกาลฟุตบอลโลกก็แล้วกัน
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นักศึกษาวิชาเอกภาษาไทยทุกชั้นปีเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกัน โดยมีชมรมวรรณศิลป์ทีมีเกรียงศักดิ์ ฤทธิยงค์เป็นประธาน รับหน้าที่หัวหอก วางแผนดำเนินงานทั้งหมด

เมื่อนักศึกษาร่วมห้าร้อยคนพร้อมกันแล้ว ประธานชมรมวรรณศิลป์ได้กล่าวรายงานต่อท่านประธานคือ ดร.ไพศาล วรคำ รองคณบดีคณะครุศาสตร์ เมื่อท่านประธานกล่าวเปิดงานเรียบร้อยแล้ว ครูอาจารย์ นักศึกษาและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนก็ทำพิธีบูชาท่านสุนทรภู่ โดยทำพิธีแบบโบราณพื้นบ้านคือทั้งเหล้าขาว ไก่ต้ม ดอกไม้ธูปเทียนครบสูตร ซึ่งผู้นำกล่าวคำบูชาได้แกนายอนุสรณ์ ก้อนคำ นักศึกษาวิชาเอกภาษาไทยชั้นปีที่ 2 ซึ่งมีความสามารถพิเศษมากมายเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เสร็จจากไหว้ครูสุนทรภู่แล้ว นักศึกษาทั้งหมดก็ทำพิธีไหว้ครูภาษาไทย คลอด้วยเสียงเพลงพระคุณที่สาม จากนั้นก็รับโอวาทจาก ผศ.กัลยา กุลสุวรรณ ประธานสาขาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ฯ
เมื่อเสร็จพิธีการเบื้องต้นก็เข้าสู่ภาควิชาการ โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากวิทยากรสองท่านคือ อาจารย์สุขุม คำภูอ่อน (สุขุมพจน์ คำสุขุม) และ ด.ต. ผดุง ป้องจันลา (ท้าวแพงคำ) โดยผู้ดำเนินรายการได้แก่ ผศ.สุทัศน์ วงศ์กระบากถาวร (ทัศนาวดี) ประธานสาขาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ ในหัวข้อ “แรงบันดาลใจจากงานวรรณกรรมสุนทรภู่” และ “ศิลปะการใช้ภาษาไทยในงานประพันธ์” โดยใช้เวลาบรรยายร่วมสามชั่วโมง สรุปสั้นๆได้ว่า วิทยากรทั้งสองท่านซึ่งเป็นคนสร้างงานเขียนทั้งบทกวี และบทเพลง ต่างก็ยอมรับว่างานเขียนของสุนทรภู่มีอิทธิพลอย่างมากในการสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้เกิดรักการอ่านการเขียน ชอบที่จะศึกษาค้นคว้า ฝึกฝนและมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จตามความวาดหวัง และทุกวันนี้ก็ยังคงไม่ละเลยที่จะพัฒนาตนเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยวิทยากรได้ยกตัวอย่างคำประพันธ์ของท่านสุนทรภู่ และของวิทยากรเองเพื่อกระตุ้นให้ผู้ฟังการอภิปรายได้จดจำเป็นกรณีศึกษา
เมื่อการบรรยายเสร็จสิ้นลง คณาจารย์ วิทยากร และนักศึกษาได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันอย่างเป็นกันเอง ต่อด้วยกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญน้องใหม่ การแสดงของชั้นปีต่างๆ ปิดท้ายด้วยกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ โดยได้ร่วมทำความสะอาดอาคาร 2 ที่มีอายุร่วม 50 ปี เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อสถานที่เรียน โดยความควบคุมดูแลอย่างดียิ่ง ของ ผศ.กฤษฎา ศรีธรรมา อาจารย์เชษฐา จักรชัย อาจารย์วินัย แสงกล้า อาจารย์อริยานุวัฒน์ สมาธยกุล อาจารย์ศิวพร ไชยเดช และอาจารย์ทิพย์วารี สงนอก
งานในวันนี้ประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี ทุกคนหอบรอยยิ้มและความเหน็ดเหนื่อยกลับไป แม้จะอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมทั้งวันแต่ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับในวันนี้ นับเป็นความทรงจำที่ดีแก่นักศึกษา คณาจารย์ และผู้ร่วมงานโดยทั่วกัน