งานสัมมนาวิชาการแบ่งปันความรู้สู่สาธารณะ
"ร่องรอยกาลเวลา : ลุ่มน้ำสงขลา ทะเลสาบสงขลา สายน้ำแห่งชีวิต"
ณ วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
ระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคม พ.ศ. 2553
กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งใน วาระ 50 ปี สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
ร่วมจัดและสนับสนุนโดย
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม,
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย,
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุง เขต 1,
วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ,
สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย,
สโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล,
วารสารวิทยาจารย์ ,
บริษัทสถาพรบุ๊คส์ จำกัด,
มูลนิธิอมตะ และ ออน อาร์ต ครีเอชั่น
ติดต่อสอบถามได้ที่ 086-5387323,
085-1666473,086-9888011
โทรสาร 02-931-6221
อีเมล์ wtj.project@gmail.com
ในพื้นที่ 0842147843 (ปรัชญา)
0-7461-3409 (สนง.วธ.จ.พัทลุง),081-8741028 (นิธิกานต์)
สื่อมวลชนที่มีความประสงค์ร่วมลงพื้นที่ทำข่าวประชาสัมพันธ์
โปรดแจ้งความจำนงโดยด่วนเพราะมีที่นั่งสำรองจำกัด
มหา - ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต ผู้ประสานงานโครงการ 085-1666473
กำหนดการ “ร่องรอยกาลเวลา : ลุ่มน้ำสงขลา ทะเลสาบสงขลา สายน้ำแห่งชีวิต”
ณ วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
ระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ภาคใต้ บริเวณแหลมทองของสยามประเทศ อยู่บริเวณสองคาบสมุทร คือ ทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน บริเวณคาบสมุทรภาคใต้ทางชายฝั่งอ่าวไทยเติบโตขึ้นเป็นบ้านเมือง แล้วเป็นรัฐเอกราช นับถือพุทธ –พราหมณ์ เช่น รัฐไชยา (สุราษฎร์ธานี –ชุมพร) รัฐตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช –สงขลา) รัฐปัตตานี (ยะลา –ปัตตานี)
มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอันเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ทั้งภาพเขียนตามเพิงผาและผนังถ้ำ เช่น บริเวณอ่าวพังงา จังหวัดกระบี่ – ตรัง – พังงา และถ้ำศิลป์ จังหวัดยะลา หรือกลองมโหระทึก สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งพบที่แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร กลองมโหระทึกนี้ค้นพบมากในมณฑลกวางสี ประเทศจีน เมืองแถน ประเทศเวียดนาม และหลายพื้นที่ในประเทศไทยตั้งแต่ภาคอีสานจรดภาคใต้ ปรากฏหลักฐานเป็นเส้นทางกลองทอง (มโหระทึก) ที่ส่งผลถึงสำเนียงเสียงภาษาที่เป็นเครือญาติชาติภาษาร่วมสุวรรณภูมิ เห็นได้จาก “สำเนียงปักษ์ใต้” ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสำเนียงพูดของคนสองฝั่งโขงทางอีสาน คนไทยและความเป็นไทยจึงแยกไม่ได้จากความเป็นคนสุวรรณภูมิที่หลากหลายและผสมกลมกลืนยาวนาน ประวัติศาสตร์ (สยาม) ประเทศไทยก็แยกไม่ได้จากประวัติศาสตร์สุวรรณภูมิ
ทะเลสาบสงขลา เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็มอยู่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์อยู่ตลอดเวลา
ดินแดนรอบๆ ทะเลสาบสงขลาแต่เดิมเป็นเกาะสองเกาะ เกิดจากระดับน้ำที่ลดลงทำให้พื้นดินเดิมใต้ผิวน้ำโผล่ขึ้นมาเป็นภูเขาเตี้ยๆ ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเอาทรายทะเลมาทับถมทางซีกตะวันออกของภูเขา เกิดเป็นสันทรายงอกออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่ซีกตะวันตกของภูเขาก็เกิดการทับถมของดินตะกอนจากลำน้ำต่างๆ ซึ่งไหลออกทะเลที่บริเวณทะเลสาบตอนใน ทำให้แผ่นดินทั้งสองด้านงอกออกไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นเกาะขึ้น ภายหลังเกาะทั้งสองนี้ได้งอกออกมาเชื่อมติดกันเป็นแหลม เกิดเป็นทะเลสาบสงขลา
ทะเลสาบสงขลาเป็นที่ตั้งถิ่นฐานทำมาหากิน เกิดเป็นชุมชนหนาแน่นมาตั้งแต่สมัยโบราณที่เกาะยังไม่เชื่อมติดกันเป็นแหลม เพราะภูมิประเทศเหมาะสมที่จะเป็นท่าเรือ เนื่องจากสามารถกำบังลมได้เป็นอย่างดี ภายหลังเมื่อเกาะพัฒนาเป็นแหลม ชุมชนก็หนาแน่นยิ่งขึ้น เมื่อน้ำในทะเลสาบตอนในเปลี่ยนเป็นน้ำจืดเพราะได้รับอิทธิพลจากน้ำในลำคลองที่มากกว่าน้ำทะเล พื้นที่โดยรอบของทะเลสาบจึงเริ่มกลายเป็นพื้นที่เพาะปลูก เนื่องจากบริเวณนี้มีดินตะกอนทับถมกันมาก กลายเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญของภาคใต้ โดยเฉพาะบริเวณฝั่งตะวันตก หรือพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงในปัจจุบัน ขณะเดียวกันทะเลสาบที่เกิดขึ้นก็เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิดด้วย ส่วนบริเวณตอนบนหรือแถบต้นน้ำเชิงเขาก็เป็นเขตป่าที่มีป่าดงดิบขึ้นปกคลุมหนาแน่น จึงมีผลผลิตจากป่าจำนวนมาก เช่น หวาย ไม้ไผ่ สมุนไพร งาช้าง เครื่องหนัง เขาสัตว์ และของป่าอื่นๆ ซึ่งของเป็นสินค้าพ่อค้าชาวจีนและอินเดียต้องการมาก จึงพากันเดินทางเข้ามาค้าขายและนำเอาอารยธรรมเข้ามาเผยแพร่ในบริเวณคาบสมุทรมลายูและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
การสัมมนาครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือในวงวิชาการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยการริเริ่มของสถาบันและองค์กรต่างๆ เพื่อขยายพรมแดนความรู้ และสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา ให้เป็นการศึกษาทางเลือกแบบตลาดวิชาที่เน้นการ “สั่งสมความรู้” มากกว่าการ “สั่งสอน” ก่อเกิดเป็นสังคมอุดมปัญญา
วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2553
ณ วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวต้อนรับผู้ร่วมสัมมนา นายศลใจ วิบูลกิจ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุง เขต 1 กล่าวรายงานการจัดสัมมนา และ นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติกล่าวเปิดการสัมมนา
เสวนาห้องรวมหัวข้อ “นิทาน ตำนาน ประวัติศาสตร์ และวรรณกรรม : ความเหมือนในความต่าง สยาม – มลายู” โดย ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปาศาสตร์ มธ. สถาพร ศรีสัจจัง (พนม นันทพฤกษ์) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์,ศ.ชวน เพชรแก้ว เมธีวิจัยอาวุโส ดำเนินรายการโดย รศ.รัตติยา สาและ มหาวิทยาลัยทักษิณ
สัมมนาหัวข้อย่อย 3 ห้องสัมมนา : ห้องที่ 1 มิติทางวัฒนธรรม ทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำแห่งชีวิต โดย บรรจง ทองสร้าง ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุมชมลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา,สานิตย์ เพชรกาฬ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง,นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว นักเขียนอิสระ ดำเนินรายการโดย จิตติมา ผลเสวก นักเขียนอิสระ : ห้องที่ 2 วิกฤติปัญหาครูภาษาไทยและสังคมมานุษยวิทยา โดย ดร.รุ่ง แก้วแดง มูลนิธิ สุข – แก้ว แก้วแดง ,ศลใจ วิบูลกิจ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุง เขต 1 ,สาทร ดาบสุวรรณ ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น สวช. พ.ศ. 2552 ยุทธ โตอดิเทพย์ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการโดย อาจินต์ ศิริวรรณ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน : ห้องที่ 3 “บุหงาปารีและบุหงาตานี : ประวัติศาสตร์ในมุมมองวรรณกรรม” โชคชัย วงษ์ตานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่,นูรียัน สาและ มหาวิทยาลัยทักษิณ,พิเชฐ แสงทอง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี,เจน สงสมพันธ์ เลขาธิการสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการโดย พินิจ นิลรัตน์ คอลัมนิสต์วรรณกรรม
วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สัมมนา 2 ห้องย่อง ห้องที่ 1 ศิลปะ เพลง ดนตรี กวี เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขา วรรณศิลป์,มนตรี ศรียงค์ กวีซีไรต์,อติภพ ภัทรเดชไพศาล กวี –นักเขียน และ อานันท์ นาคคง คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินรายการ : ห้องที่ 2 เครือญาติ ชาติภาษา สยาม –จ้วง – ลาว ปักษ์ใต้ และเหน่อสุพรรณ อ.ล้อม เพ็งแก้ว ปราชญ์เมืองเพชรบุรี คนพัทลุง,จรูญ หยูทอง สถาบันทักษิณคดีศึกษา,สัจภูมิ ละออ ผู้สื่อข่าว นสพ.ไทยรัฐ และ ดำเนินรายการโดย ทองแถม นาถจำนง บรรณาธิการสยามรัฐรายวัน
ปัจฉิมนิเทศ โดย องค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา
พิธีกรประจำวัน บุญเสริม แก้วพรหม สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย และ มินทรลดา นิธิโชตินันทชัย สโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล
(วิทยากรบางท่านอยู่ระหว่างการติดต่อกำหนดการอาจปรับเปลี่ยนแก้ไขตามความเหมาะสม)
กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งใน วาระ 50 ปี สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ร่วมจัดและสนับสนุนโดย
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ,การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพัทลุง เขต 1,วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ,สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย,สโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล,วารสารวิทยาจารย์ ,บริษัทสถาพรบุ๊คส์ จำกัด , มูลนิธิอมตะ และ ออน อาร์ต ครีเอชั่น
ติดต่อสอบถามได้ที่ 086-5387323,085-1666473,086-9888011 โทรสาร 02-931-6221
ในพื้นที่ 0842147843 (ปรัชญา) 0-7461-3409 (สนง.วธ.จ.พัทลุง),081-8741028 (นิธิกานต์)