โครงการสัมมนาวิชาการแบ่งปันความรู้
ร่องรอยกาลเวลา : ลุ่มน้ำนครชัยศรี ทวารวดีศรีวิชัย สุวรรณภูมิ
หลักการและเหตุผล
ลุ่มน้ำนครชัยศรี เกี่ยวพันกับเส้นทางการค้า การคมนาคมโบราณ บริเวณนี้เป็นที่รู้จักมาก่อนแล้วในนามสุวรรณภูมิ มีชุมชนใหญ่ที่ดอนตาเพชร (กาญจนบุรี) อู่ทอง (สุพรรณบุรี) เป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนค้าขายกับชาวต่างชาติที่มาจากภายนอก “ตะวันตก – ตะวันออก”
บรรพชนชาวสุวรรณภูมิลุ่มน้ำแม่กลอง – ท่าจีน อาศัยอยู่กระจัดกระจาย บ้างร่อนเร่แสวงหาอาหารตามป่าชายเลนเป็นชุมชนชั่วคราวขนาดย่อยๆ แต่ยังไม่เป็นชุมชนเมือง ชุมชนเมืองที่สำคัญของลุ่มน้ำแม่กลอง - ท่าจีนยุคนี้มีอยู่ทางดอนตาเพชร (กาญจนบุรี) อู่ทอง (สุพรรณบุรี) โพธิ์หัก (ราชบุรี) ฯลฯ มีเทคโนโลยีชั้นสูง คือถลุงโลหะแล้วหลอมสัมฤทธิ์ ด้วยวิธีเทโลหะร้อนๆ ไล่ขี้ผึ้ง หรือ Lost Wax (เช่นเดียวกับเทคโนโลยีในวัฒนธรรมบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี)
พ.ศ. 1 เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน บริเวณจังหวัดนครปฐมมีชุมชนหมู่บ้านขนาดเล็ก
กระจัดกระจายตามที่ดอนป่าชายเลน แต่ยังไม่พบหลักฐานเป็นชุมชนบ้านเมือง ตรงบริเวณปากน้ำที่ลำน้ำบางแก้วกับแม่น้ำท่าจีนสบกันแล้วให้ชื่อ เมืองนครไชยศรี ตามความเชื่อเก่าแก่ในตำนานนิทานท้าวแสนปมว่า พระเจ้า
ไชยสิริจากเมืองเชียงแสน (จังหวัดเชียงราย) มาสร้างเมืองนี้ไว้นานแล้ว จึงเอาพระนามไชยสิริ เป็นไชยศรี (แต่นิทานบางเรื่องเรียก เมืองศรีวิไชย เป็นเหตุให้พ่อขุนช้างในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนมีชื่อ ขุนศรีวิไชย) เมืองนครปฐมโบราณได้ชื่อว่า เมืองนครไชยศรี ตั้งแต่แผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ยุคกรุงศรีอยุธยา สืบมาจนกรุงธนบุรี ถึงแรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
การสั่งสมความรู้แลกเปลี่ยนความรู้ผ่านการศึกษานอกระบบ หรือที่เรียกอย่างเข้าใจง่ายว่า “ตลาดวิชา มหาวิทยาลัยชาวบ้าน” โดยอาศัยศิลปวัฒนธรรมเป็นสื่อ เพื่อเชื่อมโยงความเข้าใจทางภูมิสังคมวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย เป็นพหุลักษณ์และสหวิทยาการ เพื่อให้การบริหารงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ให้การทำงานคล่องตัวและเข้าถึงประชาชน โดยมุ่งเน้นถึงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มาจากศิลปะต่าง ๆ และการสร้างสรรค์ของมนุษย์ในยุควัฒนธรรมร่วมสมัย เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความรักชาติ ความซาบซึ้ง และคุณค่าทางภูมิสังคมวัฒนธรรม นิเวศวิทยา รวมถึงการที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2551 เป็นปีแห่งความหลากหลายทางภาษา การสัมมนาครั้งนี้จึงเกิดขึ้นจากความร่วมมือในวงวิชาการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยการริเริ่มของสถาบันและองค์กรต่างๆ เพื่อขยายพรมแดนความรู้ และสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา ให้เป็นการศึกษาทางเลือกแบบตลาดวิชาที่เน้นการ“สั่งสมความรู้” มากกว่าการ “สั่งสอน” ก่อเกิดเป็นสังคมอุดมปัญญา
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมการศึกษา ค้นคว้า และเผยแพร่ข้อมูลองค์ความรู้ในมิติต่างๆ ทางด้านประวัติศาสตร์
สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
2. เพื่อกระตุ้นให้มีการนำความรู้ความเข้าใจที่ได้ไปปรับให้เอื้อต่อการสร้างความเข้าใจอันดี
ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
3. เพื่อมุ่งสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากกระแสความเปลี่ยนแปลง
อันเกิดจากระบบเศรษฐกิจและสังคม
4. เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพสู่สังคมไทย และส่งเสริมให้รู้จักการใช้เครือข่ายสังคม
อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
5. เพื่อบูรณาการความรู้ด้านวรรณกรรม ดนตรี ศิลปะ ตำนาน และประวัติศาสตร์
นำไปสู่บรรยากาศของการแลกเปลี่ยนและสั่งสมความรู้สู่ชุมชนอย่างเข้มแข็งและมีพลัง
6. เพื่อเป็นกิจกรรมหนึ่งในวาระ 50 ปี สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. เกิดการตื่นตัวเรื่องความรู้ทางเลือกเกี่ยวกับภูมิภาคลุ่มน้ำนครชัยศรีในมิติต่างๆ
โดยเริ่มต้นจากชุมชน และนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ในวงวิชาการ
2. เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ระหว่างชุมชนอย่างยั่งยืนและเข้มแข็งมีพลัง
สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ
3. เกิดความเข้าใจเรื่องภูมิสังคมวัฒนธรรมของภูมิภาค เสริมสร้างความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียน
4. เกิดการแตกยอดทางความรู้ ยอมรับความเห็นที่แตกต่างด้านสังคมวิทยา มานุษยวิทยา
ร่วมกันพิจารณาประเด็นปัญหาใหม่ๆ เกี่ยวกับภูมิภาคอุษาคเนย์
กลุ่มเป้าหมาย
จำนวน 500 คน ประกอบด้วย
1. ครู – อาจารย์ สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1 และ 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
สุพรรณบุรี เขต 1, 2 และ 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาญจนบุรี เขต 1, 2, 3 และ 4
2. วิทยากร – คณะทำงาน และสื่อมวลชน
3. กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัด อำเภอ และตำบล
4. นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
(ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับ ถุงผ้า 1 ใบ หนังสือประกอบการสัมมนา 1 เล่ม เกียรติบัตร 1 ใบ
และหนังสือจากองค์กรร่วมจัดและผู้สนับสนุน)
งบประมาณ
1. เก็บจากค่าลงทะเบียน
2. งบอุดหนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
3. งบสนับสนุนจากหน่วยงาน องค์กร และภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุน
องค์กรร่วมจัด
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 2
โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์
สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
สโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล
ชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน
วารสารวิทยาจารย์
มูลนิธิอมตะ
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด
บริษัท ออน อาร์ต ครีเอชั่น จำกัด
กำหนดการ
โครงการสัมมนาวิชาการแบ่งปันความรู้
ร่องรอยกาลเวลา : ลุ่มน้ำนครชัยศรี ทวารวดีศรีวิชัย สุวรรณภูมิ
วันที่ 18-19 กันยายน พ.ศ. 2553
ณ โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา ในพระสังฆราชูปถัมภ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2553
08.00 น. – 08.30 น. ลงทะเบียน กล่าวต้อนรับผู้ร่วมสัมมนาและคณะวิทยากร
08.30 น. – 09.30 น. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนา
นายรังสรรค์ อ้วนวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 2
กล่าวรายงาน
นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
กล่าวเปิดการสัมมนา
09.30 น. – 12.00 น. เสวนาหัวข้อ “นครปฐมมาจากไหน? : ลุ่มน้ำนครชัยศรี ทวารวดีศรีวิชัย สุวรรณภูมิ”
ผศ.นุกูล ชมภูนิช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
อ.ทรงยศ แววหงษ์ มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
บุหลง ศรีกนก รายการจดหมายเหตุกรุงศรี
วัฒนะ บุญจับ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ดำเนินรายการ
12.00 น. – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. -16.00 น. แบ่งหัวข้อสัมมนา 4 ห้องย่อย
ห้องที่ 1 หัวข้อ “นิราศลุ่มน้ำท่าจีน สุนทรภู่ – เสมียนมี – หลวงจักรปาณี : หมายเหตุร่วมสมัย”
บุญเตือน ศรีวรพจน์ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
วารุณี โอสถารมย์ สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ยุทธ โตอดิเทพย์ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
วิษณุ เอมประณีตร์ ผู้จัดการทั่วไปพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ดำเนินรายการ
ห้องที่ 2 หัวข้อ “นิทาน ตำนาน ประวัติศาสตร์ ลุ่มน้ำแม่กลอง–ท่าจีน :
เจิ้งเหอ พระยากง พระยาพาน ตำนานรักขุนไกร นางทองประศรี”
ผศ.ดร.สืบแสง พรหมบุญ มหาวิทยาลัยรังสิต
ทองแถม นาถจำนง บรรณาธิการ นสพ.สยามรัฐรายวัน
ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ ศูนย์การเรียนรู้ทุ่งสักอาศรม
ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ดำเนินรายการ
ห้องที่ 3 หัวข้อ “กวีนิพนธ์ รู้สึก นึก คิด เขียน”
วัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียนรางวัลศรีบูรพา
โชคชัย บัณฑิต’ กวีซีไรต์
ผศ.สกุล บุณยทัต มหาวิทยาลัยศิลปากร
อ.ณัฐกาญจน์ นาคนวล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินรายการ
ห้องที่ 4 หัวข้อ “ร้อง รำ ทำเพลง : เพลงพื้นบ้าน ฝั่งขวา แม่น้ำเจ้าพระยา”
ชัยชนะ บุญนะโชติ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
เอนก นาวิกมูล บ้านพิพิธภัณฑ์
เจนภพ จบกระบวนวรรณ พิพิธภัณฑ์เพลงลูกทุ่ง
อานันท์ นาคคง คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินรายการ
วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553
08.00 น. – 08.30 น. ลงทะเบียน กล่าวต้อนรับผู้ร่วมสัมมนาและคณะวิทยากร
08.30 น – 10.00 น. แบ่งหัวข้อสัมมนา 3 ห้องย่อย
ห้องที่ 1 หัวข้อ“การบริหารความรู้และบุคลากรการศึกษา”
ดร.สุรัฐ ศิลปอนันต์ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ บมจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์
ถวัลย์ พึ่งเงิน เลขาธิการสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการ
ห้องที่ 2 หัวข้อ “สามก๊ก – ราชาธิราช –ไซ่ฮั่น วรรณกรรมแปล โลกทัศน์ของชนชั้นนำสยาม”
ทองแถม นาถจำนง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนศึกษา
อภิลักษณ์ เกษมผลกูล สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
องค์ บรรจุน นักวิชาการเรื่องมอญศึกษา
รักษ์ มนัญญา สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการ
ห้องที่ 3 หัวข้อ “ภูมิสังคมวัฒนธรรมกับการจัดนิเวศลุ่มน้ำ”
ประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา
เจตน์ เจริญโท นักเขียน – นักแปล คนบางปลาม้า
ผศ.เด่นศิริ ทองนพคุณ เลขาธิการชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีนนครปฐม
ดร.สมยศ แสงสุวรรณ บมจ.บริหารและการพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ดำเนินรายการ
ห้องที่ 4 หัวข้อ “ครูบ้านนอก : วรรณกรรมบนแผ่นฟิลม์ ถึง คุรุปฏิวัติ : ตำนานโลกไม่ลืม”
คำหมาน คนไค ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง ครูบ้านนอก
เสมอ กลิ่นหอม ผู้เขียน คุรุปฏิวัติ ตำนานโลกไม่ลืม
สมจิตร พรรณา อดีตช่างศิลป์ ศาลาเฉลิมไทย
ปรีดา ข้าวบ่อ กองทุนศิลปินครูบ้านป่า สลา คุณวุฒิดำเนินรายการ
10.00 น. รับประทานอาหารว่าง
10.30 น.- 11.00 น. ปัจฉิมกถา โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
11.00 น. บรรยายสรุปปิดการสัมมนา โดย องค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา
12.00 น. จบการสัมมนา มอบวุฒิบัตร รับประทานอาหารกลางวัน
พิธีกร รักษ์มนัญญา สมเทพ สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
มินทร์ลดา นิธิโชตินันทชัย สโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล
*กำหนดการอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม วิทยากรอยู่ระหว่างการประสานงาน