โครงการแบ่งปันความรู้สู่สาธารณะจุดประกายความคิด
“ร่อยรอยกาลเวลา : ‘ตรัง’ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์กับการรับรู้ก่อนก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน”
.............................................................................................................................
หลักการและเหตุผล
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาณาเขตที่มีความหลากหลายชาติพันธุ์ – ภาษา วัฒนธรรม การเมืองการปกครอง และรูปแบบเศรษฐกิจที่หลากหลายพร้อมกับที่ตั้งของประเทศต่างๆ ที่กำลังจะก้าวไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในกระแสที่โลกที่กำลังจะถูกรวบรวมเป็นหนึ่งเดียว
การรับรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรหมแดนทางวัฒนธรรม หรือความเข้าใจในเรื่องประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีมุมมองที่แตกต่างและหลากหลาย การถอดองค์ความรู้ไม่ว่าจะเป็น ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณกรรม ดนตรี และ ศิลปะ เป็นการขยายพรหมแดนความรู้ที่เชื่อมโยงเข้าหากันได้จากอดีตส่งผลถึงปัจจุบันและอนาคต
ใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ (ค.ศ.๒๐๑๕) ประเทศในภูมิภาคอุษาคเนย์จะก้าวสู่ความเป็น “ประชาคมอาเซียน” นั้นต้องเริ่มที่ความรู้ โดยเฉพาะ วัฒนธรรมการอ่านและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรับรู้และตระหนักถึงความเข้าใจที่ดีและรู้เท่าทันผลกระทบจากการพัฒนาที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยว่าเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคแห่งนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายตามกรอบความร่วมมืออาเซียน <ASEAN> ที่จะมุ่งไปสู่ความเป็น “ประชาคมเดียวกัน” ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ (ค.ศ.๒๐๑๕)
สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมกับองค์กรภาครัฐและเอกชน จึงจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจต่อเพื่อนบ้านเป็นประตูสู่ความรู้ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวอุษาคเนย์ในประเทศต่างๆ พร้อมกับการตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการเผยแพร่ความรู้แบบ “แบ่งปันความรู้สาธารณะ” เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการศึกษาทางเลือกพร้อมกับสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา ให้เป็นการศึกษาทางเลือกแบบตลาดวิชาที่เน้นการ “สั่งสมความรู้” มากกว่าการ “สั่งสอน” ก่อเกิดเป็นสังคมอุดมปัญญา
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อส่งเสริมการศึกษา ค้นคว้า และเผยแพร่ข้อมูลองค์ความรู้ในมิติต่างๆ ทางด้านประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
๒. เพื่อกระตุ้นให้มีการนำความรู้ความเข้าใจที่ได้ไปปรับให้เอื้อต่อการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
๓. เพื่อมุ่งสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากกระแสความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากระบบเศรษฐกิจและสังคม
๔. เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพสู่สังคมไทย และส่งเสริมให้รู้จักการใช้เครือข่ายสังคมอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
๕. เพื่อบูรณาการความรู้ด้านวรรณกรรม ดนตรี ศิลปะ ตำนาน และประวัติศาสตร์ นำไปสู่บรรยากาศของการแลกเปลี่ยนและสั่งสมความรู้สู่ชุมชนอย่างเข้มแข็งและมีพลัง
๖. เพื่อเป็นกิจกรรมหนึ่งในวาระ ๑๐ ปี กระทรวงวัฒนธรรม
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
๑. เกิดการตื่นตัวเรื่องความรู้ทางเลือกเกี่ยวกับภูมิภาคลุ่มแม่น้ำปิงในมิติต่างๆ โดยเริ่มต้นจากชุมชน และนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ในวงวิชาการ
๒. เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ระหว่างชุมชนอย่างยั่งยืนและเข้มแข็งมีพลัง สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ
๓. เกิดความเข้าใจเรื่องภูมิสังคมวัฒนธรรมของภูมิภาค เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียน
๔. เกิดการแตกยอดทางความรู้ ยอมรับความเห็นที่แตกต่างด้านสังคมวิทยามานุษยวิทยา ร่วมกันพิจารณาประเด็นปัญหาใหม่ๆ เกี่ยวกับภูมิภาคอุษาคเนย์
กลุ่มเป้าหมาย
จำนวน ๓๐๐ คน ประกอบด้วย
๑. ครู – อาจารย์ ในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง
๒. วิทยากร – คณะทำงาน และสื่อมวลชน
๓. กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัด อำเภอ และตำบล
๔. นิสิตนักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป
งบประมาณ/ผู้รับผิดชอบโครงการ
สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
องค์กรร่วมจัดและสนับสนุน
สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย สโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาฯ/สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง
วารสารวิทยาจารย์ มูลนิธิอมตะ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. ครู –อาจารย์ มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการศึกษาในทัศนะใหม่มากขึ้น
๒. เกิดบรรยากาศของความรู้ทางเลือกและมีข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์วิจัยในระดับสูงต่อไป
๓.ผู้ศึกษาวรรณคดีมีความเข้าใจในข้อจำกัดของสิ่งที่ศึกษายิ่งขึ้น
๔.เกิดการแตกยอดทางความรู้ ยอมรับความเห็นที่แตกต่างด้านสังคมวิทยามานุษยวิทยา ร่วมกัน
พิจารณาประเด็นปัญหาใหม่ๆ เกี่ยวกับภูมิภาคอุษาคเนย์
๕.เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ระหว่างชุมชนอย่างยั่งยืนและเข้มแข็งมีพลัง สนับสนุนให้เกิดการ
แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ
ผลลัพธ์ (OUTCOME)
๑ ได้มีรับรู้ รักษา สืบทอด เข้าใจเรื่องราวประชาคมอาเซียนมากขึ้น
๒ได้มีแลกเปลี่ยนเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน อันจะก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและการยอมรับซึ่งกันและกัน อันจะนำไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคมไทยและสังคมโลก
๓.ความสัมพันธ์กับประเทศเป้าหมายได้รับการพัฒนาโดยใช้มิติทางวัฒนธรรม
๔.ประเทศไทยได้รับการยอมรับในฐานะเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มีบทบาท ความสำคัญในเวทีนานาชาติและประชาคมอาเซียน
๕.ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมร่วมและความหลากหลาย อันจะนำไปสู่ผลประโยชน์ทางด้านประชาคมการเมือง ประชาคมเศรษฐกิจ และ ประชาคมวัฒนธรรมสังคม
ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs)
๑.จำนวนประเทศ หน่วยงาน องค์กร ชุมชน ศิลปินที่เข้าร่วมงานหรือมีส่วนร่วมในการจัดงาน
๒จำนวน/ ร้อยละของการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของผู้เข้าชมงานและร่วมกิจกรรม
๓.จำนวนผลงานทางวิชาการ/ เอกสาร/ สื่อที่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นการรวบรวมองค์ความรู้และข้อมูลทางด้านวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องทั้งของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
๔.ผลงานประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่ผ่านสื่อทุกรูปแบบ
กำหนดการโครงการแบ่งปันความรู้สู่สาธารณะจุดประกายความคิด
“ร่อยรอยกาลเวลา : ‘ตรัง’ วัฒนธรรม วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ กับการรับรู้ก่อนก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน”
ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
เวลา ๐๘.๐๐ น. ลงทะเบียนพร้อมกับชมสารคดีชุด “ประชาคมอาเซียน”
๐๙.๐๐ น. รองอธิการบดี ม.สงขลสนครินทร์ วิทยาเขตตรัง กล่าต้อนรับ
นายวินัย ทองรัตน์ ผอ.สพป.ตรัง เขต ๑ กล่าวรายงาน นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
กล่าวเปิดการสัมมนา และบรรยายพิเศษ
๑๐.๓๐ น. รับประทานอาหารว่าง
๑๑.๐๐ น. เสวนาในหัวข้อ “ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นประวัติศาสตร์ชาติ กับ
ประวัติศาสตร์ประชาคมอาเซียน”
ผศ.ดร.สุเนตร ชุฒินธรานนท์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ยงยุทธ ชูแว่น มหาวิทยาลัยศิลปากร
ทองแถม นาถจำนง สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
พิเชฐ แสงทอง ม.อ.ปัตตานี ดำเนินรายการ
๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน
๑๓.๐๐ น. เสวนาห้องที่ ๑ หัวข้อ
“ดนตรี กวี ภาพยนตร์ : สุ้มเสียงวัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์”
อาจารย์สมเจตนา มุนีโมนัย กวี/นักเขียนอาวุโส จังหวัดตรัง
อ.อานันท์ นาคคง คณะดุริยางคศาสตร์ ม.ศิลปากร
อ.จิรวัฒน์ แสงทอง สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ดำเนินรายการโดย พินิจ นิลรัตน์
เสวนาห้องที่ ๒ หัวข้อ
“วัฒนธรรมความหลากหลาย-ก่อนก้าวสู่ประชาคมวัฒนธรรมอาเซียน”ประภัสสร เสวิกุล ศิลปินแห่งสาขาวรรณศิลป์อ.ธนภาษ เดชพาวุฒิกุล สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
อ.โชคชัย วงษ์ตานี สถาบันสันติศึกษา ม.อ. วิทยาเขตหาดใหญ่
ดำเนินรายการ วรรณศิริ ศรีวราธนบูรณ์ นิตยสารไฮคลาส
๑๕.๐๐ น. รับประทานอาหารว่าง
๑๕.๓๐ น. สรุปการสัมมนา โดย ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต
๑๖.๐๐ น. มอบวุฒิบัตร จบการสัมมนา