ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (กลอนสุภาพ) : หัวข้อ “สากล”
จำนวน 12 ชิ้น
1. คนเก่งฟ้าประทาน
Sent: Wednesday, November 13, 2013 8:51 PM
"สากล" (1. คนเก่งฟ้าประทาน)
มิใช่เพียงแค่ความงามชั่วครู่ แต่หยัดอยู่ทั่วไปในทุกหน
ความดีคือ...อาภา...แห่งสากล ส่องมืดมนถ้วนทั่วทุกหัวใจ
สุดเขตแดนแสนกว้างห่างที่สุด มิกว้างเกินจิตมนุษย์จะคว้าไขว่
เขตสากลรวมดินแดนแสนกว้างไกล มิกว้างใหญ่กว่าสากลจิตคนเรา
ในสากลแห่งจิตพินิจเถิด ล้วนบ่อเกิด โลภ โกรธ หลง คงผลาญเผา
ความรู้สึก อารมณ์ ผสมเงา ส่ง สุข เศร้า เคล้าประสาน ผ่านนัยน์ตา
มวลมนุษย์ที่ยืนเหยียบผืนโลก ก่อวิโยคด้วยแรงแห่งตัณหา
สูบ ดิน น้ำ อากาศ ธาตุพารา แสวงมา...ป้อนปาก...ความอยากตน
ประชาคม...รวมชาติ...ประกาศฐาน ใช่ต้องการเพิ่มแรงแสวงผล?
ปลาใหญ่กินปลาน้อยลอยวังวน ใช่สากลในฉากหน้ากากทราม?
พุทธองค์ทรงดำรัส...ประภัสสร์ล้ำ ฝากหลักธรรมทั้งผองอย่ามองข้าม
โปรยแสงทองส่องยุคทุกรูปนาม จุดความงามกลางใจไร้หม่นมัว
สากลจิตจักบันดล...สากลโลก สิ้นทุกข์โศกเพราะใจมิใฝ่ชั่ว
ปูรากฐานธรรมมอบจากครอบครัว ขยายรั้วกว้างไกลสุดสายตา
ประชาคมยิ่งใหญ่ไม่ย่ำแย่ หากเปลี่ยนแปรด้วยธรรมล้ำคุณค่า
นโยบายสัตย์ซื่อถือสัจจา เชื่อมขอบฟ้าเป็นหนึ่งซึ่งไมตรี
ย่อมมิใช่แค่ความงามชั่วครู่ แต่หยัดอยู่ยาวไกลในวิถี
เปิดสากลด้วยธรรมาทุกนาที โลกจะมี...สุขแท้...อย่างแน่นอน
…………………………… (1. คนเก่งฟ้าประทาน) ……………………………
2. “ลูกน้ำ”
Sent: Thursday, November 14, 2013 8:05 AM
บ้านฉัน บ้านเธอ บ้านเรา (2. “ลูกน้ำ”)
บ้านของฉัน...งามศิลป์ศาสตร์ประกาศศักดิ์ เอกลักษณ์วัฒนธรรมนำวิถี
อารยะมนต์เสน่ห์ประเพณี น้ำใจมีอวยเอื้อเพื่อทุกคน
ยกมือไหว้เอมอิ่มยิ้มต้อนรับ รอยประทับความดีย่อมมีผล
ยึดแสงธรรมส่องทางล้างมืดมน เป็นมงคลเคียงยุคพบสุขครอง
บ้านของเธอ...ก้าวไกลโลกไซเบอร์ อยากพบเจอแชทออนไลน์ได้จดจ้อง
บริโภคแฟชั่นแฝงครรลอง ภาษาต้องจุงเบยเอ่ยบรรยาย
อาศัยนอนคอนโดโก้หรูหรา สองมือคว้าโทรศัพท์เฝ้ารับสาย
สร้างสมบัติเงินทองกองเรียงราย อยู่สบายใช้เทคนิคคลิกปุ่มเดียว
บ้านของเรา...คือผสานบ้านทั้งสอง คอยเชื่อมคล้องจุดต่างสร้างข้อเกี่ยว
คงสิ่งเดิมเสริมสิ่งใหม่ให้กลมเกลียว สัมพันธ์เหนียวแน่นสนิทน่าชิดชม
บ้านของเรามีหลังคาเป็นฟ้าใหญ่ คลุมหัวใจใครทั้งหล้ามาเพาะบ่ม
ฤๅแยกความแตกต่างทางสังคม พร้อมนิยมขานว่า“บ้านสากล”
บ้านของเราใช่จะมีอยู่ที่ฝัน หากเสกสรรด้วยกำลังตั้งแต่ต้น
อยู่อย่างร่วมสมัยใฝ่แยบยล จึงบันดลบ้านหลังนี้...มีอยู่จริง
แล้วสันติสงบสุขครองทุกที่ มิคสัญญีไม่ลามลุกครองทุกสิ่ง
แลตาใจเห็นธรรมนำอ้างอิง โลกก็นิ่งสู่ถิ่นฐานบ้านของเรา
…………………………… (2. “ลูกน้ำ”) ……………………………
3. บุษกร
Sent: Saturday, November 16, 2013 8:19 PM
สากล (3. บุษกร)
ไทยสร้างไทยสู่สากลผลพิลาส ชนในชาติรู้เปลี่ยนปรับรับสิ่งใหม่
ไม่ลืมสยามวันเก่ารากเหง้าไทย ถกลไกลกิติศักดิ์รักแดนดิน
“โอท็อป” ศิลป์ถักสานผลงานเด่น เพลงร้องเล่น“ติดหู”รู้ทั่วถิ่น
อาหารทิพย์หวานคาวข่าวระบิล แคว้นแห่งศิลป์สูงศาสตร์ผงาดงาม
กว่าสี่พันโครงการไท้ไทยสร้างชื่อ ข่าวระบือสุขเห็นเพ็ญสยาม
สร้างเขื่อนใหญ่งามนิเวศทุกเขตคาม ทั่วโลกตามรอยบาทจอมปราชญ์ไทย
ปฏิญญาสากลล้นสิทธิ ดอกผลผลิกลางลานโลกโชคยิ่งใหญ่
อุษาอาคเนย์เสน่ห์นักจักก้องไกล “สิบชาติ”ได้เป็นสากลผลเป็นธรรม
สืบสานความเป็นไทยได้ประจักษ์ ประสานรัก“อาเซียน”ไว้ไร้ตกต่ำ
ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไทยผู้นำ เศรษฐกิจเลิศล้ำทัดเทียมกัน
หากร่วมมือร่วมใจย่อมไปรุ่ง ร่วมผดุงกูลเกื้อเพื่อสร้างสรรค์
มุ่งสู่ความเป็นสากลพ้นทางตัน ย่อมถึงวันงามพิสิฐพิพิธชัย
…………………………… (3. บุษกร) ……………………………
4. อภิสิทธิ์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
วันที่ตอบ 2013-11-14 22:45:16
คนสากล...ทั่วสากลยอมรับ (4. อภิสิทธิ์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)
หนึ่งวิถีชีวิตคิดบากบั่น ต้องขยันหมั่นสู่อยู่อย่างแกร่ง
ควรมานะพยายามตามเรี่ยวแรง จักเปลี่ยนแปลงจุดยืนพาชื่นชม
หนี่งต้องเรียนเพียรศึกษาหาชีพสู้ มีความรู้คู่ชีวาพาสุขสม
ปัญญาคืออาวุธลับนับว่าคม ไม่ติดตรมจมปลักหนักร่างกาย
พร้อมด้วยทำจำตระหนักถึงหลักของ- คุณธรรมตริตรองไม่ให้หาย
ประพฤติดีให้ตลอดปลอดอุบาย อย่าเหนื่อยหน่ายกับการช่วยด้วยจิตใจ
คือคนที่คนครบครันในคนหนึ่ง ต้องมึถึงสามอย่างวางเอาไว้
หนึ่งคุณธรรมทำดีมีวินัย จักพาไปเป็นที่รักประจักษ์ตน
สองต้องเก่งเร่งหาปัญญาให้ ถึงฝันใฝ่พร้อมพัฒน์มิขัดสน
สามต้องรู้อยู่ร่วมรวมหมู่ชน จักเป็นคนครบครันในสังคม
คนสากลคือคนที่พร้อมถึง เป็นดั่งหนึ่งนรชนคนไม่ล่ม
จักไปไหนในทั่วทุกสุขอารมณ์ ไม่ระทมทั่วทุกแดนแม้นหลงทาง
คนสากลชนยอมรับนับถือค่า ทั่วบรรดาสรรเสริญเชิญเอาอย่าง
ถึงโดยพิษจิตไซร้ไม่บอบบาง ยึดหลักกลางไม่ผิดจิตสำราญ
จงทำตนให้มีค่านานาสิ่ง เป็นคนจริงยิ่งดีที่แตกฉาน
เป็นดอกไม้มีความงามแบ่งบาน จักตระการทั่วสากลตนสุขนาน...
…………………………… (4. อภิสิทธิ์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข) ……………………………
5. อภิสิทธิ์ แก้ไขครั้งที่ 1
วันที่ตอบ 2013-11-15 13:13:34
คนสากล...ทั่วสากลยอมรับ (5. อภิสิทธิ์ แก้ไขครั้งที่ 1)
หนึ่งวิถีชีวิตคิดบากบั่น ต้องขยันหมั่นสู้อยู่อย่างแกร่ง
ควรมานะพยายามตามเรี่ยวแรง จักเปลี่ยนแปลงจุดยืนพาชื่นชม
หนึ่งต้องเรียนเพียรศึกษาหาชีพสู้ มีความรู้คู่ชีวาพาสุขสม
ปัญญาคืออาวุธลับนับว่าคม ไม่ติดตมจมปลักหนักร่างกาย
พร้อมด้วยการตระหนักถึงหลักธรรม แล้วน้อมนำตริตรองไม่ให้หาย
ประพฤติดีให้ตลอดปลอดอุบาย อย่าเหนื่อยหน่ายกับการช่วยด้วยหัวใจ
คือคนที่ มีครบในคนหนึ่ง ต้องมึถึงสามอย่างวางเอาไว้
หนึ่งคุณธรรมความดีมีวินัย นำพาให้เป็นที่รักประจักษ์ตน
สองต้องเก่งเร่งหาปัญญาให้ ถึงฝันใฝ่พร้อมพัฒน์มิขัดสน
สามต้องรู้อยู่ร่วมรวมหมู่ชน จักเป็นคนครบครันในสังคม
คนสากลคือคนที่พร้อมถึง นับเป็นหนึ่งนรชนคนไม่ล่ม
เมื่อไปไหนในทั่วทุกสุขอารมณ์ ไม่ระทมทั่วทุกแดนแม้นหลงทาง
คนสากลชนยอมรับนับถือค่า ทั่วโลกาสรรเสริญเชิญเอาอย่าง
ถึงโดนพิษจิตใจไม่บอบบาง ยึดหลักเดินสายกลางแสนสำราญ
จงทำตนให้มีค่านานาสิ่ง เป็นคนจริงยิ่งดีที่แตกฉาน
เป็นดอกไม้ที่งดงามยามเบ่งบาน จักตระการทั่วสากลจนนิรันดร์
…………………………… (5. อภิสิทธิ์ แก้ไขครั้งที่ 1) ……………………………
6. สุธิดา
วันที่ตอบ 2013-11-15 13:13:37
ชาติไทยก้าวไกลสู่สากล (6. สุธิดา)
1.แดนดินถิ่นขวานทองนี้ลือชื่อ ก้องระบือกว้างใหญ่ทั่วไพศาล
ประเพณีสืบต่อมาแต่ก่อนกาล เป็นตำนานกล่าวขานกึกก้องไป
2.มารยาทอ่อนน้อมงดงามยิ่ง ทั้งชายหญิงสานสัมพันธ์พาสดใส
ทั้งการไหว้และรอยยิ้มหวานละไม ด้วยน้ำใจเกื้อกูลกันเป็นสิ่งดี
3.ทั่วโลกล้วนหลงใหลประทับจิต ความเป็นมิตรแดนสยามจรัสศรี
แสนสุขใจในบ้านเกิดคู่ชีวี ไทยวิถีคือเสน่ห์น่ายินยล
4.เรื่องอาหารรสโอชามิเป็นสอง ได้ลิ้มลองต้องติดใจทุกแห่งหน
ชาวต่างชาตินั้นชื่นชมในบัดดล เป็นสุขล้นทั่วถิ่นฐานแผ่นดินทอง
5.เราเผยแพร่ศิลปวัฒนา ร่วมรักษาให้คงอยู่คู่ทั้งผอง
นาฏศิลป์ทั้งมวยไทยนามเรืองรอง ประกาศก้องชื่อเสียงสถาพร
6.ไทยเข้าร่วมอาเซียนประชาคม ล้วนนิยมทำการค้าสโมสร
ได้แลกเปลี่ยนระดมคิดมิแคลนคลอน เลิศขจรความก้าวหน้าละลือไป
7.ปัจจุบันประเทศไทยก้าวไกลนัก แจ้งประจักษ์เราภาคภูมิเป็นไฉน
โชคดีแล้วที่ได้เกิดเป็นคนไทย ล้ำสมัยมุ่งเจริญสู่สากล
…………………………… (6. สุธิดา) ……………………………
7. หิมะขาว ในแขนเสื้อ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
วันที่ตอบ 2013-11-15 13:42:33
บทรำพันท่ามกลางสงครามแห่งความฝัน (7. หิมะขาว ในแขนเสื้อ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)
สังคมในปัจจุบันไร้ความคิด ใช้ชีวิตไม่พอดีที่อาศัย
ความสากลเปลี่ยนแปลงทุกแห่งไป ไร้สติไร้อำไพในความจริง
สีขาวเคยบริสุทธิ์แลผุดผ่อง ตอนนี้กลับหม่นหมองคล้ายผีสิง
เข้าในร่างอันงดงามเกินประวิง อีกไร้สิ่งที่เรียกว่าความจริงใจ
วิปริตผิดมนุษย์สุดจะคิด ในใจจิตคิดเรื่องเลวเดียงสาใส
สวมหน้ากากเข้าหากันขาดความนัย ความฝันใฝ่ใฝ่ฝันวันสงคราม
ฉันรำพันท่ามกลางสงครามนี้ เพียงเพื่อที่ใครได้ยินสิ่งฉันถาม
ว่าทำเพื่ออะไรไม่ได้ความ ก่อสงครามครั้งนี้เพราะเหตุใด?
เพียงเพื่อจะไขว่คว้าหาอำนาจ เพียงเพราะอาจยกฐานะเงินตราไหล
เข้าสู่ตัวเราเองเอาทำไม? ก็ในเมื่อเชื้อไขไม่เคยมี
เป็นเพราะทะเยอทะยานเกินไขว่คว้า ยอมก้มหน้าเพื่อแลกมาค่าเศรษฐี
อยากถามหน่อยว่านั่นหรือพึงควรมี ในศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นคน
หรือปัจจุบันคนเราเป็นเช่นนี้ เป็นคนที่เสแสร้งทั่วแห่งหน
เป็นคนที่โน้มน้าวใจเมื่อพึงยล เปรียบไฟลนดวงเทียนให้ละลาย
อีกไม่นานไทยจะเข้าสู่อาเซียน ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นวิบัติแลฉิบหาย
เป็นเพราะใครคนนั้นไม่เคยคลาย จองตัวตายกรรมเวรเข่นฆ่าฟัน
เหตุเป็นเพราะความโลภไม่สิ้นสุด เสมือนดุจภาพมายาในคราฝัน
ทั้งฝันดีฝันเฟื่องเรื่องพัลวัน มัวรังสรรค์ปรนเปรอทุกครั้งคราว
นี่น่ะหรือโชคชะตาฟ้าลิขิต อันมืดมิดปิดปกวิหคขาว
กลางหมู่คนดวลเดือดกลิ่นเลือดคาว คอยฟังข่าวรำพันฆ่ากันเอง...
…………………………… (7. หิมะขาว ในแขนเสื้อ) ……………………………
8. หิมะขาว ในแขนเสื้อ แก้ไขครั้งที่ 1
วันที่ตอบ 2013-11-15 13:42:33
บทรำพันท่ามกลางสงครามแห่งความฝัน (8. หิมะขาว ในแขนเสื้อ แก้ไขครั้งที่ 1)
สังคมในปัจจุบันไร้ความคิด ใช้ชีวิตไม่พอดีที่อาศัย
ความสากลเปลี่ยนแปลงทุกแห่งไป ไร้สติไร้อำไพในความจริง
สีขาวเคยบริสุทธิ์แลผุดผ่อง ตอนนี้กลับหม่นหมองคล้ายผีสิง
เข้าในร่างอันงดงามเกินประวิง อีกไร้สิ่งที่เรียกว่าความจริงใจ
วิปริตผิดมนุษย์สุดจะคิด ในใจจิตคิดเรื่องเลวเดียงสาใส
สวมหน้ากากเข้าหากันขาดความนัย ความฝันใฝ่ใฝ่ฝันวันสงคราม
ฉันรำพันท่ามกลางสงครามนี้ เพียงเพื่อที่ใครได้ยินสิ่งฉันถาม
ว่าทำเพื่ออะไรไม่ได้ความ ก่อสงครามครั้งนี้เพราะเหตุใด?
เพียงเพื่อจะไขว่คว้าหาอำนาจ เพียงเพราะอาจยกฐานะเงินตราไหล
เข้าสู่ตัวเราเองเอาทำไม? ก็ในเมื่อเชื้อไขไม่เคยมี
เป็นเพราะทะเยอทะยานเกินไขว่คว้า ยอมก้มหน้าเพื่อแลกมาค่าเศรษฐี
อยากถามหน่อยว่านั่นหรือพึงควรมี ในศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นคน
หรือปัจจุบันคนเราเป็นเช่นนี้ เป็นคนที่เสแสร้งทั่วแห่งหน
เป็นคนที่โน้มน้าวใจเมื่อพึงยล เปรียบไฟลนดวงเทียนให้ละลาย
อีกไม่นานไทยจะเข้าสู่อาเซียน ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นวิบัติแลฉิบหาย
เป็นเพราะใครคนนั้นไม่เคยคลาย จองตัวตายกรรมเวรเข่นฆ่าฟัน
เหตุเป็นเพราะความโลภไม่สิ้นสุด เสมือนดุจภาพมายาในคราฝัน
ทั้งฝันดีฝันเฟื่องเรื่องพัลวัน มัวรังสรรค์ปรนเปรอทุกครั้งคราว
นี่น่ะหรือโชคชะตาฟ้าลิขิต อันมืดมิดปิดปกวิหคขาว
กลางหมู่คนดวลเดือดกลิ่นเลือดคาว คอยฟังข่าวรำพันฆ่ากันเอง...
…………………………… (8. หิมะขาว ในแขนเสื้อ แก้ไขครั้งที่ 1) ……………………………
9. ธฤตวัน
วันที่ตอบ 2013-11-15 19:22:21
อะไรแน่นั้นหรือคือสากล ? (9. ธฤตวัน)
จับปากกาไม่กล้าเขียนข้อคำถาม ถึงนิยามชวนคิดพิสมัย
ว่าสากลกล่าวถึงซึ่งสิ่งใด เหตุไฉนจึงผิดเพี้ยนเปลี่ยนตามกัน
บ้างนิยมชมชอบกอบอำนาจ อวดฉลาดฉอเลาะปะเหลาะลั่น
บ้างฉ้อโกงโก่งคดเป็นรายวัน บ้างแข่งขันครอบครองของนิยม
บ้างก็แกล้งแสร้งดีให้มีหน้า หวังประชาซ้องเสียงสำเนียงขรม
เลียนแบบเกลอเธอ-ฉันต่างชื่นชม แต่ทับถมคนคิดต่างบนทางเดิน
ว่าทำตัวเชยสนิท..เต่าชิดซ้าย ไม่เอียงอาย-อุตริ มิขวยเขิน
นึกแหกคอกออกนอกทางที่เผชิญ ถ่วงเจริญสิ้นดีไม่มีอาย
ไม่ทำตัวหัวสากลบถบรรเจิด ไร้รสเลิศต่ำต้อยน้อยความหมาย
ประพฤติดีมีธรรมค้ำจุนกาย ก็คงต้องเดียวดายในวิญญาณ์
จับปากกาขีดเขียนข้อคำถาม แถลงความสงสัยในปัญหา
ให้สังคมนิยมชอบตอบกลับมา ว่าสิ่งใดในโลกา... คือ สากล ?
…………………………… (9. ธฤตวัน) ……………………………
10. กันยาลักษณ์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
วันที่ตอบ 2013-11-15 20:32:59
สากล กับ คนไทย (10. กันยาลักษณ์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)
เลบงถ้อยร้อยพาทีวจีขาน เป็นกลอนกานท์กอปรกิจลิขิตเขียน
เรียงเรื่องราวชาวสากลใจวนเวียน คอยผันเปลี่ยนแปรตามความนิยม
ปฏิวัติรัฐนครบวรสยาม มาเป็นนามชาติไทยให้เหมาะสม
พลเมืองเลื่องระรื่นต่างชื่มชม หลงเริงรมย์กับสิ่งใหม่ที่ได้มา
ประเพณีที่แปลกแยกและแตกต่าง ก็เอาอย่างจนเตลิดเกิดปัญหา
เห็นสิ่งงามความเป็นไทยไม่โศภา กลับคิดด่าเยาะร้ายไม่อายคน
ลืมหมดสิ้นแผ่นดินเกิดอันเลิศล้ำ ลืมศีลธรรมที่เจือจุนหนุนกุศล
ลืมเสียซึ่งศักดิ์ศรีวีรชน ลืมทุกข์ทนครั้งกอบกู้เชิดชูไทย
ดั่งกิ้งก่าประดับทองของล้ำค่า กลับชูคอเชิดหน้าว่ายิ่งใหญ่
ประหนึ่งวัวลืมตัวตนหม่นฤทัย ปล่อยดวงใจตามนิยมเสกสมปอง
ความสากลคนต่างชาติอาจประเสริฐ วัฒนธรรมล้ำเลิศมิมัวหมอง
แต่ชาวไทยกลับไปคิดผิดครรลอง ไม่แลมองเห็นคุณคาแห่งธานี
จักร้อยเรียงเรื่องราวชาวสยาม มาบรรจบครบความในวิถี
หากนิกรยังหลงจิตไม่คิดดี ปฐพีจะคงอยู่ได้อย่างไร?
…………………………… (10. กันยาลักษณ์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข) ……………………………
11. กันยาลักษณ์ แก้ไขครั้งที่ 1
วันที่ตอบ 2013-11-15 20:39:25
สากล กับ คนไทย (11. กันยาลักษณ์ แก้ไขครั้งที่ 1)
เลบงถ้อยร้อยพาทีวจีขาน เป็นกลอนกานท์กอปรกิจลิขิตเขียน
เรียงเรื่องราวชาวสากลใจวนเวียน คอยผันเปลี่ยนแปรตามความนิยม
ปฏิวัติรัฐนครบวรสยาม มาเป็นนามชาติไทยให้เหมาะสม
พลเมืองเลื่องระรื่นต่างชื่มชม หลงเริงรมย์กับสิ่งใหม่ที่ได้มา
ประเพณีที่แปลกแยกและแตกต่าง ก็เอาอย่างจนเตลิดเกิดปัญหา
เห็นสิ่งงามความเป็นไทยไม่โศภา กลับคิดด่าเยาะร้ายไม่อายคน
ลืมหมดสิ้นแผ่นดินเกิดอันเลิศล้ำ ลืมศีลธรรมที่เจือจุนหนุนกุศล
ลืมเสียซึ่งศักดิ์ศรีวีรชน ลืมทุกข์ทนครั้งกอบกู้เชิดชูไทย
ดั่งกิ้งก่าประดับทองของล้ำค่า กลับชูคอเชิดหน้าว่ายิ่งใหญ่
ประหนึ่งวัวลืมตัวตนหม่นฤทัย ปล่อยดวงใจตามนิยมเสกสมปอง
ความสากลคนต่างชาติอาจประเสริฐ วัฒนธรรมล้ำเลิศมิมัวหมอง
แต่ชาวไทยกลับไปคิดผิดครรลอง ไม่แลมองเห็นคุณค่าแห่งธานี
จักร้อยเรียงเรื่องราวชาวสยาม มาบรรจบครบความในวิถี
หากนิกรยังหลงจิตไม่คิดดี ปฐพีจะคงอยู่ได้อย่างไร?
…………………………… (11. กันยาลักษณ์ แก้ไขครั้งที่ 1) ……………………………
12. วรรณภา
ไปรษณีย์
ศาสนาสากล (12. วรรณภา)
พุทธคริสต์อิสลามงามยิ่งนัก ได้ประจักษ์แจ่มสัจจะศาสนา
โลกประเทืองเรืองนามสามศาสดา ซึ่งนำพาโลกล้อมหลอมความดี
ตรัสรู้รู้ตามพระสัมพุทธ ย่อมพิสุทธิ์ด้วยธรรมจำเริญศรี
เดินตามทางสร้างคุณบุญทวี ย่อมจักมีสุขสว่างด้วยทางบุญ
“เยซูคริสต์” จิตสว่างผู้สร้างโลก ทำลายโศกด้วยธรรมเข้านำหนุน
แผ่นดินที่มีธรรมเข้าค้ำจุน ย่อมอบอุ่นทั่วหล้าสาธุชน
อิสลามงามด้วย “นะบีมูหมัด” เรืองจำรัสศรัทธาสถาผล
ทั้งสามศาสน์พัฒนาสู่ “สากล” เป็นมงคลแด่ผู้เรียนรู้ธรรม
เดินทางถูกทุกคนมีเสรีสิทธิ์ เดินทางผิดคือนรกที่ตกต่ำ
ด้วยโลกนี้มีแบบบทกฎแห่งกรรม หลีกหลุมดำข้ามหลุมขาวพราวชีวิน
ด้วยทุกศาสน์ปรารถนาเมตตาโลก จึงเป็นโชคสาธุชนคนทุกถิ่น
กุศลเอื้อเกื้อชีวาเป็นอาจิณ ทุกแผ่นดินไร้ทุกข์สุขภิรมย์
แสงสว่างแห่งธรรมเลิศล้ำหล้า แสงแห่งธรรมนำปัญญาอย่างเหมาะสม
แสงแห่งธรรมนำชีวิตจิตอุดม แสงแหงธรรมนำสังคมร่มทวี
พุทธคริสต์อิสลามนามอุโฆษ ศาสน์รุ่งโรจน์จำรัสเรืองราศี
มนุษย์ผู้ประพฤติธรรมคุณความดี ชีพย่อมมี..แต่สุขล้ำ..จิตจำเริญ
…………………………… (12. วรรณภา) ……………………………