ReadyPlanet.com
dot dot
ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “ความสุข”

 

ผลงานโคลงสี่สุภาพ ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป
ปักษ์หลัง กันยายน
2557 จำนวน 45 ชิ้น

 

 

1. ปรุงคำ สำราญลิขิต (ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)
ส่งทางอีเมล

ความสุขนั้นคือฉันใด (1. ปรุงคำ สำราญลิขิต (ส่งครั้งแรก มีแก้ไข))

สัตว์สรรพกำเนิดล้วน                  โลกา เดียวกัน
กายก่อวิวัฒนามา                        กว่าล้าน
ปีแปลงเปลี่ยนมนุสสา                 ปรากฏ
หลากเผ่าหลายพันล้าน                 ทั่วทั้งธรณิน ฯ

กินนอนขับถ่ายได้                        สืบพันธุ์ พงศ์แฮ
คือสิ่งธรรมชาติสรรค์                   สั่งไว้
คือความสุขหฤหรรษ์                   ไป่แต่ง แต้มเติม
เพียงแต่ดำรงไว้                           ย่อมได้สุขตาม ฯ

นิยามความสุขนั้น                       ฉันใด ท่านเฮย
สุขที่ได้ดั่งใจ                               ไขว่คว้า
ฤสุขที่การใด                               ปรุงแต่ง
ด้วยเล่ห์ตัณหาบ้า                        ต่อหน้าสุขแล้ ฯ

แลปัจจัยสี่นี้                               เพียงพอ ชีพนา
ที่อยู่อาหารขอ                             แค่พร้อม
เครื่องห่มนุ่งอีกหนอ                    ยาหยูก
เพียงเท่าที่มีน้อม                         กว่านั้นเกินพอ ฯ

บ้างต่อขอแต่งแต้ม                      เติมเต็ม
ดุจดั่งมหาสมุทรเค็ม                    กว่ากว้าง
มิพักจักอิ่มเอม                            เกลืออด รสเค็ม
สมสั่งความสุขสร้าง                    ซ่อนซ้อนทรมาน ฯ

สุขสันต์พานผ่านพ้น                    ห่อนนาน
สุขอยู่เพียงชั่วกาล                        ไป่รู้
สุขจากท่านให้ทาน                      เสียสละ
สุขย่อมเหนือกว่าผู้                      กู่ก้องจ้องเอา ฯ

นานเนาเคล้าสุขด้วย                    นานนม
รู้เบื่อเหลือดิ่งจม                          บ่มใบ้
รู้ปลดปล่อยวางสม                      ควรซึ่ง จึ่งเบา
ตั้งสติเตือนตนไว้                         สุขไร้จีรัง ฯ

………………………. (1. ปรุงคำ สำราญลิขิต (ส่งครั้งแรก มีแก้ไข))

 

2. ปรุงคำ สำราญลิขิต แก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางอีเมล

ความสุขนั้นคือฉันใด (2. ปรุงคำ สำราญลิขิต - แก้ไขครั้งที่ 1)

            สัตว์สรรพกำเนิดล้วน      โลกา เดียวกัน
กายก่อวิวัฒนามา                        กว่าล้าน

ปีแปลงเปลี่ยนมนุสสา                 ปรากฏ
หลากเผ่าหลายพันล้าน                 ทั่วทั้งธรณิน ฯ

            กินนอนขับถ่ายได้            สืบพันธุ์ พงศ์แฮ
คือสิ่งธรรมชาติสรรค์                   สั่งไว้
คือความสุขหฤหรรษ์                   ไป่แต่ง แต้มเติม
เพียงแต่ดำรงไว้                           ย่อมได้สุขตาม ฯ

 

            นิยามความสุขนั้น           ฉันใด ท่านเฮย
สุขที่ได้ดั่งใจ                               ไขว่คว้า
ฤสุขที่การใด                               ปรุงแต่ง
ด้วยเล่ห์ตัณหาบ้า                        ต่อหน้าสุขแล้ ฯ

            แลปัจจัยสี่นี้                   เพียงพอ ชีพนา
ที่อยู่อาหารขอ                             แค่พร้อม
เครื่องห่มนุ่งอีกหนอ                    ยาหยูก
เพียงเท่าที่มีน้อม                         กว่านั้นเกินพอ ฯ

            บ้างต่อขอแต่งแต้ม          เติมเต็ม
ดุจดั่งมหาสมุทรเค็ม                    กว่ากว้าง
มิพักจักอิ่มเอม                            เกลืออด รสเค็ม
สมสั่งความสุขสร้าง                    ซ่อนซ้อนทรมาน ฯ

            สุขสันต์พานผ่านพ้น        ห่อนนาน
สุขอยู่เพียงชั่วกาล                        ไป่รู้
สุขจากท่านให้ทาน                      เสียสละ
สุขย่อมเหนือกว่าผู้                      กู่ก้องจ้องเอา ฯ

            นานเนาเคล้าสุขด้วย        นานนม
รู้เบื่อเหลือดิ่งจม                          บ่มใบ้
รู้ปลดปล่อยวางสม                      ควรซึ่ง จึ่งเบา
ตั้งสติเตือนตนไว้                         สุขไร้จีรัง ฯ

………………………. (2. ปรุงคำ สำราญลิขิต - แก้ไขครั้งที่ 1)

 

3. ศราพก
ส่งทางอีเมล

พุทธวจน : "ฯ สุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน
มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก
เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่ เธอจักไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง
ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียนฯลฯ"

ผูกหนึ่ง     ความสุข  (3. ศราพก)

              ชุดโคลงถูกผูกขึ้น                       มาสาม
     ความสุข ความทุกข์ ความ-                 ว่างไว้
     อิงแนวอัตถ์ลงตาม                             สัตถุ-   ศาสน์แฮ
     ถูกอรรถผิดพยัญชน์ไท้             อ่านแล้วจงลืม

              ยอจิตอภิวาทน้อม                     พุทธองค์
     นมัสวรธรรมทรง                               ตรัสรู้
     นมามิพระสงฆ์                                  พหูสูต
     จงนิวรณ์อย่าสู้                       อุดอั้นปัญญา    

             ตถาคตภาษิตชี้               เวทนา
    สุข ทุกข์ อุเบกขา                    หนึ่งนั้น
    จักบังเกิดทุกครา                     ผัสสะ
    เป็นภพเป็นกรรมกั้น                สัตว์ไว้ในวน

            ผัสสะเกิดเมื่อพร้อม         ปัจจัย
    อายตนะนอก ใน                     จิตด้วย
    ครบสามกระทบไป                  เป็นกฏ
    ตราบชาติจนชีพม้วย                กลับฟื้นคืนเวียน

            ณ คราวลอยน้ำคร่ำ          นานเดือน
    สายรกยึดโยงเรือน-                  ร่างวุ้น
    ลำเลียงธาตุมาเตือน                 นามรูป   เกิดนา
    หูเปิดเสียงกระตุ้น                    สุขคุ้นมารดา

            เปิดตาดูโลกครั้ง              ยังเยาว์
    สุขรูปคือมาตุเรา                     ท่านยิ้ม
    โอบสัมผัสหนักเบา                  ถนอมเห่   กล่อมแฮ
    หอมอร่อยเกษียรลิ้ม                 อิ่มพริ้มมโนนอน          

            เพลินหลงจนใหญ่เข้า       วัยฉกรรจ์
     เบญจกามคุณพันธ์                 สุขข้อง
     ตาจักฉุดอาตมัน                     หารูป   งามแล
     รูปไม่งามเนตรต้อง                 ติล้วนชวนแขยง

            กายหูจมูกลิ้น                  เหมือนตา
     เพราะบ่มเพาะกันมา             เยี่ยงนั้น
     จักฉุดวิจิตรอา-                      รมณ์สู่   กันแฮ
     อึดอัดอยากหลีกครั้น               เมื่อพ้องอจิตรา

            กลางคนจนเสพรู้             สัจธรรม
      สุขจากเครื่องล่องำ                สัตว์ไว้
     วินิบาตนรกจำ                       ทุคติ   อบายเอย
     สุขปราศเครื่องล่อไซร้             อาจเปลื้องภพลง

            สติปัฏฐานสี่นี้                กุศลกอง
      กำจัดอกุศลผอง                     ทิศแล้ว
      รู้กายเท่ากับครอง                  อุเบก-  ขาแล
      เป็นอยู่อนามิสแพร้ว              บทแผ้วสุญญตา.

………………………. (3. ศราพก)

 

4. ส.ธรรมภิเบศร
ส่งทางอีเมล

ความสุข (4. ส.ธรรมภิเบศร)

   ๑.      สิ่งใดใดเทียบได้               จีรัง
เกิดก็ดับกลบฝัง                           ชีพม้วย
เสียดายเกิดมายัง                         บนโลก
เหลือแต่บุญเปี่ยมด้วย                   สุขไว้นำทาง

    ๒.    วางแผนเมื่อหกล้ม          กลางคัน
ขลุกขลักสุดชีพอัน                       แกร่งกล้า
หาทางแห่งชีวัน                          งามยิ่ง-  ยอดเอย
ด้วยปณิธานแจ่มจ้า                     คิดด้วยการณ์ไกลฯ

   ๓.     ตนเตือนได้ฮึดสู้               มรสุม
ลดละเลิกหลงกลุ้ม                       จิตชี้
กินกามเกียรติรักรุม                      เรี่ยราด
ขจัดพ้นทางเส้นนี้                        คลาดแคล้วอันตรายฯ

    ๔.    ลมหายใจสุขแท้              เกินใคร
บนท่ามกลางเพศวัย                     ว่องเว้น
ด้วยปีติสุขใจ                              คลายทุกข์
ผันผ่อนอุปสรรคเร้น-                   ลับลี้ห่างเหินฯ

    ๕. ก้าวเดินทางแห่งห้อง           สุขจริง
ธรรมรสล้ำเลิศยิ่ง                        แน่แล้ว
จากสภาพจิตพริ้ง-                       พรายแพร่ง
เสริมทิศทางแกร่งแกล้ว               กึกก้องสวัสดีฯ

 ๖. กามโลกีย์สุขได้                      ชั่วคราว
ยอดยิ่งสุขยืนยาว                         สัจแท้
คือความบริสุทธิ์พราว                  ผ่องผุด
จากจิตหนึ่งมากแม้                      สะอาดล้ำชีวาฯ

๗.        ลืมตาพาชื่นน้ำ                ใจดี
ด้วยสุขใจกายมี                           แผ่พ้อง
เป็นทางคู่เคียงที่                          ปรากฏ
จนจวบถึงสุดห้อง                       สุดท้ายนิรมลฯ

๘.   สุขล้นช่วงชีพได้                   คืนมา
ให้ทุกสิ่งเกินค่า                           ครอบคุ้ม
ทั้งของสิ่งเกินว่า                         ในโลก
และจิตปลอดโรคกลุ้ม                  เลิศด้วยสุขธรรมฯ

  ๙. กำลังใจเชื่อไว้                       ทำดี
เพียรพากทุกวิถี                           ถ่องแท้
ระลึกก่อนติดทำมี                        มากมาก
ใจหนึ่งรู้รอบแก้                           ทุกข์คล้อยสุขเสริมฯ

  ๑๐. พูนเพิ่มกายจิตนี้                  สุขสันต์
ควรคู่ทุกคนอัน                           เปี่ยมล้น
จะพบทางเลิศมั่น                        ในชีวิต
คือรสธรรมจิตพ้น                        เพียบพร้อมบริบูรณ์ฯ

………………………. (4. ส.ธรรมภิเบศร)

 

5. คมสัน
ส่งทางอีเมล

สุขสำรอง (5. คมสัน)

สุขคือใดใครล่วงรู้                        บ้างเอย
สุขที่ใครหมายเชย                        ชื่นชอบ
สุขแล้วจ่อมจมมิเงย                    เห็นไม่  ผิดแผก
สุขปรี่น้ำตาไห้                            อยากได้กลับคืน

ยิ้มระรื่นเพริศพริ้ง                        ชั่วครู่
สุขไม่เคยหยุดอยู่                          แน่แท้
พอผันเปลี่ยนหดหู่                       ใจฝ่อ  ห่อเหี่ยว
ฝันใฝ่สุขเรียนรู้                            อย่ายึดติดนาน

ต่างเคยผ่านต่อสู้                          ชีวิต
สุขก่อนิยามลิขิต                          ประจักษ์
สุขแล้วจุกตายติด                        อกแน่น  เจ็บปวด
สุขที่ล้นทะลัก                             มักให้ระวังตน               

เหตุใดคนอยากได้                        ความสุข  มากมาย
ชีพดั่งเรือบรรทุก                         คละเคล้า
เสพสุขอิ่มคลีคลุก                        พบโศก  ร้าวรวด
ใจเหี่ยวหายหยอกเย้า                    ตื่นได้มองเห็น

สุขหรือทุกข์เป็นหนึ่งด้าน             ตระหนัก ไหมเอย
ชีพเมื่อพานพบจัก                       ย่อมรู้
ตามติดที่ทายทัก                          รอทิ่ม  แทงอยู่
อีกหนึ่งด้านหมายสู้                     เผื่อยิ้มแย้มไว้!

………………………. (5. คมสัน)

หมายเหตุ : ผิดกติกาไม่ถึง 6 บท



 

6. ธัญญะ วิลาส ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
ส่งทางอีเมล

สุขศานติ์(6. ธัญญะ วิลาส - ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

๏ ถึงสารทจวนผ่านพ้น                พรรษา
หมุนเปลี่ยนเวียนสุขมา                ศกเมื้อ
ใบผลิเริ่มผลัดพา                                     พลัดพราก ต้นเฮย
วนวัฏจักรเรื้อเยื้อ                        แยบเยื้องระยะยาว ๚

๏ คราวสุขสุขอยู่ครั้ง                    ครู่คราว
สุขไป่ยงยืนยาว                           อยู่ยั้ง
เฉกร้อนร่นฝนหนาว                    นั่นเปลี่ยน แปรแฮ
สุขผ่านเกินฉุดรั้ง                         ยึดไว้กับเรา ๚

-------------------------๒-------------------------

๏ หวนเยาว์อดีตโพ้น                    เพียงรัก
พลัดพรากรานรอนหัก                  ห่มไห้
โหยหาห่อนสุขหนัก                     แนบเนื่อง นานนา
สุขชั่วคราวดูได้                           อดีตดั้นจากแด ๚

๏ ดวงแขเต็มแต่เบื้อง                   เพ็งบูรณ์
เวียนวกวารแรมสูญ                     แหว่งหวิ้น
ฤๅสุขจักพอกพูน                         เพียงเพิ่ม ค่ำฤๅ
แขขับไขแสงสิ้น                          ดับสิ้นคืนแรม ๚

๏ มองดาวแซมกระซิบฟ้า            เฟือนฟอง
ขอรักเราอย่าหมอง                      หม่นไหม้
หวังสุขจักครอบครอง                  เคียงคู่ นิรันดร์รา
ฤๅหากเป็นไปได้                          หยุดไว้เวลา ๚

๏ กาลเวลากัดกล้ำ                       กลืนกาล
จึงสุขมิยืนนาน                           แน่แท้
สัมพันธภาพหวามหวาน              วูบวาบ บารนี
เริงรักประโลมแล้                        ระลึกให้หทัยไหว ๚

๏ ใจสุขสมรักรื้น                         รมณีย์
เปรมปริ่มในรักปรีดิ์                     เปี่ยมแปล้
อักโขนักสุขี                                ขณะรัก รื่นเอย
ฤๅรักจักเที่ยงแท้                          ถ่องถ้วนตลอดไป ๚

๏ ใจเทวษวายรักร้าง                    โรยรา
เหินห่างสิเนหา                           สวาสดิ์ห้วง
สวาทหมดรสสวาทคลา-              ไคลจืด- จางแล
สุขฤทุกข์ทักท้วง                         ท่วมท้นคำถาม ๚

๏ ความสุขแท้แล้วนั่น                 เป็นไฉน
หากสุขอิงปัจจัย                          เช่นฉะนี้
พ้นผลเหตุเมื่อใด                         ได้สุข นิรันดร์เอย
อิสระเสรีชี้                                 ใช่แล้ว"สุขศานติ์"  ๚

-------------------------๓---------------------------

๏ ผ่านวสันต์สารทสิ้น                 ฤดู
ไม้ดกเคยดาษตรู                          ร่วงแล้ว
สุขใดเล่าของกู                            ก็ล่วง ลับแล
หมดทุกข์ก็คลาดแคล้ว                 ย่อมคล้าย"สุขสันต์" ๚

๏ สุขนิรันดร์อย่างนี้                                 อนัตตา
ส่ำสัตว์อินทร์พรหมสา-                           ธุถ้วน
เรียนรู้สุขทุกขา                                       เพียงแค่ วางนอ
ว่างจึ่งว่างเว้นล้วน                                  สละสิ้น"สุข-ศัลย์" ๚ะ๛

………………………. (6. ธัญญะ วิลาส - ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

หมายเหตุ : ผิดกติกาเกิน 10 บท

 

7. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางอีเมล

สุขศานติ์(7. ธัญญะ วิลาส – แก้ไขครั้งที่ 1)

๏ ถึงสารทจวนผ่านพ้น                พรรษา
หมุนเปลี่ยนเวียนสุขมา                ศกเมื้อ
ใบผลิเริ่มผลัดพา                                     พลัดพราก ต้นเฮย
วนวัฏจักรเรื้อเยื้อ                        แยบเยื้องระยะยาว ๚

๏ คราวสุขสุขอยู่ครั้ง                    ครู่คราว
สุขไป่ยงยืนยาว                           อยู่ยั้ง
เฉกร้อนร่นฝนหนาว                    นั่นเปลี่ยน แปรแฮ
สุขผ่านเกินฉุดรั้ง                         ยึดไว้กับเรา ๚

-------------------------๒-------------------------

๏ หวนเยาว์อดีตโพ้น                    เพียงรัก
พลัดพรากรานรอนหัก                  ห่มไห้
โหยหาห่อนสุขหนัก                     แนบเนื่อง นานนา
สุขชั่วคราวดูได้                           อดีตดั้นจากแด ๚

๏ ดวงแขเต็มแต่เบื้อง                   เพ็งบูรณ์
เวียนวกวารแรมสูญ                     แหว่งหวิ้น
ฤๅสุขจักพอกพูน                         เพียงเพิ่ม ค่ำฤๅ
แขขับไขแสงสิ้น                          ดับสิ้นคืนแรม ๚

๏ มองดาวแซมกระซิบฟ้า            เฟือนฟอง
ขอรักเราอย่าหมอง                      หม่นไหม้
หวังสุขจักครอบครอง                  เคียงคู่ นิรันดร์รา
ฤๅหากเป็นไปได้                          หยุดไว้เวลา ๚

๏ กาลเวลากัดกล้ำ                       กลืนกาล
จึงสุขมิยืนนาน                           แน่แท้
สัมพันธภาพหวามหวาน              วูบวาบ บารนี
เริงรักประโลมแล้                        ระลึกให้หทัยไหว ๚

๏ ใจสุขสมรักรื้น                         รมณีย์
เปรมปริ่มในรักปรีดิ์                     เปี่ยมแปล้
อักโขนักสุขี                                ขณะรัก รื่นเอย
ฤๅรักจักเที่ยงแท้                          ถ่องถ้วนตลอดไป ๚

๏ ใจเทวษวายรักร้าง                    โรยรา
เหินห่างสิเนหา                           สวาสดิ์ห้วง
สวาทหมดรสสวาทคลา-              ไคลจืด- จางแล
สุขฤทุกข์ทักท้วง                         ท่วมท้นคำถาม ๚

๏ ความสุขแท้แล้วนั่น                 เป็นไฉน
หากสุขอิงปัจจัย                          เช่นฉะนี้
พ้นผลเหตุเมื่อใด                         ได้สุข นิรันดร์เอย
อิสระเสรีชี้                                 ใช่แล้ว"สุขศานติ์" 

-------------------------๓---------------------------

๏ ผ่านวสันต์สารทสิ้น                 ฤดู
ไม้ดกเคยดาษตรู                          ร่วงร้าง
สุขใดเล่าของกู                            ก็ล่วง ลับแล
หมดทุกข์เทียบรัตน์สล้าง              สละสิ้น"สุข-ศัลย์" ๚ะ๛

………………………. (7. ธัญญะ วิลาส – แก้ไขครั้งที่ 1)

 

8. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 2
ส่งทางอีเมล

สุขศานติ์(8. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 2)

๏ ถึงสารทจวนผ่านพ้น                พรรษา
หมุนเปลี่ยนเวียนสุขมา                ศกเมื้อ
ใบผลิเริ่มผลัดพา                                     พลัดพราก ต้นเฮย
วนวัฏจักรเรื้อเยื้อ                        แยบเยื้องระยะยาว ๚

๏ คราวสุขสุขอยู่ครั้ง                    ครู่คราว
สุขไป่ยงยืนยาว                           อยู่ยั้ง
เฉกร้อนร่นฝนหนาว                    นั่นเปลี่ยน แปรแฮ
สุขผ่านเกินฉุดรั้ง                         ยึดไว้กับเรา ๚

-------------------------๒-------------------------

๏ หวนเยาว์อดีตโพ้น                    เพียงรัก
พลัดพรากรานรอนหัก                  ห่มไห้
โหยหาห่อนสุขหนัก                     แนบเนื่อง นานนา
สุขชั่วคราวดูได้                           อดีตดั้นจากแด ๚

๏ ดวงแขเต็มแต่เบื้อง                   เพ็งบูรณ์
เวียนวกวารแรมสูญ                     แหว่งหวิ้น
ฤๅสุขจักพอกพูน                         เพียงเพิ่ม ค่ำฤๅ
แขขับไขแสงสิ้น                          ดับสิ้นคืนแรม ๚

๏ มองดาวแซมกระซิบฟ้า            เฟือนฟอง
ขอรักเราอย่าหมอง                      หม่นไหม้
หวังสุขจักครอบครอง                  เคียงคู่ นิรันดร์รา
ฤๅหากเป็นไปได้                          หยุดไว้เวลา ๚

๏ กาลเวลากัดกล้ำ                       กลืนกาล
จึงสุขมิยืนนาน                           แน่แท้
สัมพันธภาพหวามหวาน              วูบวาบ บารนี
เริงรักประโลมแล้                        ระลึกให้หทัยไหว ๚

๏ ใจสุขสมรักรื้น                         รมณีย์
เปรมปริ่มในรักปรีดิ์                     เปี่ยมแปล้
อักโขนักสุขี                                ขณะรัก รื่นเอย
ฤๅรักจักเที่ยงแท้                          ถ่องถ้วนตลอดไป ๚

๏ ใจเทวษวายรักร้าง                    โรยรา
เหินห่างสิเนหา                           สวาสดิ์ห้วง
สวาทหมดรสสวาทคลา-              ไคลจืด- จางแล
สุขฤทุกข์ทักท้วง                         ท่วมท้นคำถาม ๚

๏ ความสุขแท้แล้วนั่น                 เป็นไฉน
หากสุขอิงปัจจัย                          เช่นฉะนี้
พ้นผลเหตุเมื่อใด                         ได้สุข นิรันดร์เอย
อิสระเสรีชี้                                 ใช่แล้ว"สุขศานติ์" 

-------------------------๓---------------------------

๏ ผ่านวสันต์สารทสิ้น                 สุดฤดู
ไม้ดกเคยดาษตรู                          ร่วงร้าง
สุขใดเล่าของกู                            ก็ล่วง ลับแล
หมดทุกข์เทียบรัตน์สล้าง              สละสิ้น"สุข-ศัลย์" ๚ะ๛

………………………. (8. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 2)

9. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 3
ส่งทางอีเมล

สุขศานติ์(9. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 3)

๏ ถึงสารทจวนผ่านพ้น                พรรษา
หมุนเปลี่ยนเวียนสุขมา                ศกเมื้อ
ใบผลิเริ่มผลัดพา                                     พลัดพราก ต้นเฮย
วนวัฏจักรเรื้อเยื้อ                        แยบเยื้องระยะยาว ๚

๏ คราวสุขสุขอยู่ครั้ง                    ครู่คราว
สุขไป่ยงยืนยาว                           อยู่ยั้ง
เฉกร้อนร่นฝนหนาว                    นั่นเปลี่ยน แปรแฮ
สุขผ่านเกินฉุดรั้ง                         ยึดไว้กับเรา ๚

-------------------------๒-------------------------

๏ หวนเยาว์อดีตโพ้น                    เพียงรัก
พลัดพรากรานรอนหัก                  ห่มไห้
โหยหาห่อนสุขหนัก                     แนบเนื่อง นานนา
สุขชั่วคราวดูได้                           อดีตดั้นจากแด ๚

๏ ดวงแขเต็มแต่เบื้อง                   เพ็งบูรณ์
เวียนวกวารแรมสูญ                     แหว่งหวิ้น
ฤๅสุขจักพอกพูน                         เพียงเพิ่ม ค่ำฤๅ
แขขับไขแสงสิ้น                          ดับสิ้นคืนแรม ๚

๏ มองดาวแซมกระซิบฟ้า            เฟือนฟอง
ขอรักเราอย่าหมอง                      หม่นไหม้
หวังสุขจักครอบครอง                  เคียงคู่ นิรันดร์รา
ฤๅหากเป็นไปได้                          หยุดไว้เวลา ๚

๏ กาลเวลากัดกล้ำ                       กลืนกาล
จึงสุขมิยืนนาน                           แน่แท้
สัมพันธภาพหวามหวาน              วูบวาบ บารนี
เริงรักประโลมแล้                        ระลึกให้หทัยไหว ๚

๏ ใจสุขสมรักรื้น                         รมณีย์
เปรมปริ่มในรักปรีดิ์                     เปี่ยมแปล้
อักโขนักสุขี                                ขณะรัก รื่นเอย
ฤๅรักจักเที่ยงแท้                          ถ่องถ้วนตลอดไป ๚

๏ ใจเทวษวายรักร้าง                    โรยรา
เหินห่างสิเนหา                           สวาสดิ์ห้วง
สวาทหมดรสสวาทคลา-              ไคลจืด- จางแล
สุขฤทุกข์ทักท้วง                         ท่วมท้นคำถาม ๚

๏ ความสุขแท้แล้วนั่น                 เป็นไฉน
หากสุขอิงปัจจัย                          เช่นฉะนี้
พ้นผลเหตุเมื่อใด                         ได้สุข นิรันดร์เอย
อิสระเสรีชี้                                 ใช่แล้ว"สุขศานติ์" 

-------------------------๓---------------------------

๏ ผ่านวสันต์สารทสิ้น                 สุดฤดู
ไม้ดกเคยดาษตรู                          ร่วงแล้
สุขใดเล่าของกู                            ก็ล่วง ลับแล
วางสุขว่างทุกข์แม้                      หมดสิ้น"สุข-ศัลย์" ๚ะ๛

………………………. (9. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 3)

 

 

 

10. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 4
ส่งทางอีเมล

สุขศานติ์(10. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 4)

๏ ถึงสารทจวนผ่านพ้น                พรรษา
หมุนเปลี่ยนเวียนสุขมา                ศกเมื้อ
ใบผลิเริ่มผลัดพา                                     พลัดพราก ต้นเฮย
วนวัฏจักรเรื้อเยื้อ                        แยบเยื้องระยะยาว ๚

๏ คราวสุขสุขอยู่ครั้ง                    ครู่คราว
สุขไป่ยงยืนยาว                           อยู่ยั้ง
เฉกร้อนร่นฝนหนาว                    นั่นเปลี่ยน แปรแฮ
สุขผ่านเกินฉุดรั้ง                         ยึดไว้กับเรา ๚

-------------------------๒-------------------------

๏ หวนเยาว์อดีตโพ้น                    เพียงรัก
พลัดพรากรานรอนหัก                  ห่มไห้
โหยหาห่อนสุขหนัก                     แนบเนื่อง นานนา
สุขชั่วคราวดูได้                           อดีตดั้นจากแด ๚

๏ ดวงแขเต็มแต่เบื้อง                   เพ็งบูรณ์
เวียนวกวารแรมสูญ                     แหว่งหวิ้น
ฤๅสุขจักพอกพูน                         เพียงเพิ่ม ค่ำฤๅ
แขขับไขแสงสิ้น                          ดับสิ้นคืนแรม ๚

๏ มองดาวแซมกระซิบฟ้า            เฟือนฟอง
ขอรักเราอย่าหมอง                      หม่นไหม้
หวังสุขจักครอบครอง                  เคียงคู่ นิรันดร์รา
ฤๅหากเป็นไปได้                          หยุดไว้เวลา ๚

๏ กาลเวลากัดกล้ำ                       กลืนกาล
จึงสุขมิยืนนาน                           แน่แท้
สัมพันธภาพหวามหวาน              วูบวาบ บารนี
เริงรักประโลมแล้                        ระลึกให้หทัยไหว ๚

๏ ใจสุขสมรักรื้น                         รมณีย์
เปรมปริ่มในรักปรีดิ์                     เปี่ยมแปล้
อักโขนักสุขี                                ขณะรัก รื่นเอย
ฤๅรักจักเที่ยงแท้                          ถ่องถ้วนตลอดไป ๚

๏ ใจเทวษวายรักร้าง                    โรยรา
เหินห่างสิเนหา                           สวาสดิ์ห้วง
สวาทหมดรสสวาทคลา-              ไคลจืด- จางแล
สุขฤทุกข์ทักท้วง                         ท่วมท้นคำถาม ๚

๏ ความสุขแท้แล้วนั่น                 เป็นไฉน
หากสุขอิงปัจจัย                          เช่นฉะนี้
พ้นผลเหตุคราใด                         ได้สุข นิรันดร์เอย
อิสระเสรีชี้                                 ใช่แล้ว"สุขศานติ์" 

-------------------------๓---------------------------

๏ ผ่านวสันต์สารทสิ้น                 สุดฤดู
พฤกษ์ดกเคยดาษตรู                     ร่วงแล้
สุขใดเล่าของกู                            ก็ล่วง ลับแล
วางสุขว่างทุกข์แม้                      หมดสิ้น"สุข-ศัลย์" ๚ะ๛

………………………. (10. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 4)

 

11. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 5
ส่งทางอีเมล

สุขศานต์(11. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 5)

๏ ถึงสารทจวนผ่านพ้น                พรรษา
หมุนเปลี่ยนเวียนสุขมา                ศกเมื้อ
ใบผลิเริ่มผลัดพา                                     พลัดพราก ต้นเฮย
วนวัฏจักรเรื้อเยื้อ                        แยบเยื้องระยะยาว ๚

๏ คราวสุขสุขอยู่ครั้ง                    ครู่คราว
สุขไป่ยงยืนยาว                           อยู่ยั้ง
เฉกร้อนร่นฝนหนาว                    นั่นเปลี่ยน แปรแฮ
สุขผ่านเกินฉุดรั้ง                         ยึดไว้กับเรา ๚

-------------------------๒-------------------------

๏ หวนเยาว์อดีตโพ้น                    เพียงรัก
พลัดพรากรานรอนหัก                  ห่มไห้
โหยหาห่อนสุขหนัก                     แนบเนื่อง นานนา
สุขชั่วคราวดูได้                           อดีตดั้นจากแด ๚

๏ ดวงแขเต็มแต่เบื้อง                   เพ็งบูรณ์
เวียนวกวารแรมสูญ                     แหว่งสิ้น
ฤๅสุขจักพอกพูน                         เพียงเพิ่ม ค่ำฤๅ
แขขับไขดับดิ้น                            ดับด้วยคืนแรม ๚

๏ มองดาวแซมกระซิบฟ้า            เฟือนฟอง
ขอรักเราอย่าหมอง                      หม่นไหม้
หวังสุขจักครอบครอง                  เคียงคู่ นิรันดร์รา
ฤๅหากเป็นไปได้                          หยุดไว้เวลา ๚

๏ กาลเวลากัดกล้ำ                       กลืนกาล
จึงสุขมิยืนนาน                           แน่แท้
สัมพันธภาพหวามหวาน              วูบวาบ บารนี
เริงรักประโลมแล้                        ระลึกให้หทัยไหว ๚

๏ ใจสุขสมรักรื้น                         รมณีย์
เปรมปริ่มในรักปรีดิ์                     เปี่ยมแปล้
อักโขนักสุขี                                ขณะรัก รื่นเอย
ฤๅรักจักเที่ยงแท้                          ถ่องถ้วนตลอดไป ๚

๏ ใจเทวษวายรักร้าง                    โรยรา
เหินห่างสิเนหา                           สวาสดิ์ห้วง
สวาทหมดรสสวาทคลา-              ไคลจืด- จางแล
สุขฤทุกข์ทักท้วง                         ท่วมท้นคำถาม ๚

๏ ความสุขแท้แล้วนั่น                 เป็นไฉน
หากสุขอิงปัจจัย                          เช่นฉะนี้
พ้นผลเหตุคราใด                         ได้สุข นิรันดร์เอย
อิสระเสรีชี้                                 ใช่แล้ว"สุขศานต์" 

-------------------------๓---------------------------

๏ ผ่านวสันต์สารทสิ้น                 สุดฤดู
พฤกษ์ดกเคยดาษตรู                     ร่วงแล้
สุขใดเล่าของกู                            ก็ล่วง ลับแล
วางสุขว่างทุกข์แม้                      หมดสิ้น"สุข-ศัลย์" ๚ะ๛

………………………. (11. ธัญญะ วิลาส แก้ไขครั้งที่ 5)

 

12. อุบลรัตน์  - ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
ส่งทางอีเมล

ความสุข? (12. อุบลรัตน์ - ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

ธิปไตยเด่นหล้า                           คู่ชาติ
แลกร่างเลือดชนหาญ                               ร่วมด้วย
นำสร้างชื่อองอาจ                                   เฉกเช่น ความดี
ลือเรื่องนามแม้ม้วย                                 มอดไหม้วายชน

            เกิดปัญหาแตกร้าว                       ทุกถิ่น แดนไทย
ชนด่าทอมิสิ้น                                         พี่น้อง
แตกแยกทั่วแดนดิน                                 ลำบาก ใจนา
ใครใคร่จิตแม้นต้อง                                  ร่วมด้วยจึ่งรัก

            หาความสุขค่ำเช้า                       ยากยิ่ง
เสียที่พาพึ่งพิง                                         ก่อกลุ้ม
ปัญหาใหญ่แอบอิง                                   เกิดเรื่อง ทุกข์เอย
คิดต่างมุมแล้วคุ้ม                                    สิ่งนี้จริงหรือ

            ปัจจุบันแต่งตั้ง                            เก้าอี้ ผู้นำ
งดแบ่งฝั่งหลากสี                                    ถิ่นข้า
แก้เรื่องวุ่นวายนี้                                      เพื่อชาติ กล่าวไว้
จะส่งผลแกล้วกล้า                                  ห่างร้างขัดแย้ง

            สุขทุกข์ควรใคร่รู้             แก่จิต
ชนใฝ่รู้ถูกผิด                                           ผ่องแผ้ว
บ้านเมืองเรื่องปกปิด                                เอาผิด ใครได้
สุขที่เห็นซ้อนแล้ว                                   สุดเศร้าอาดูร

            บทเรียนเกิดก่อซ้ำ                        สอนคน
ดังกล่าวว่าบ่งชน                                     แบ่งชั้น
จำจดคู่เตือนตน                                       นึกสั่ง ใจนา
สิ้นแผ่นดินพร้องนั้น                                อยู่ได้เยี่ยงไร

            จงหาสุขค่าล้ำ                             จากครั้ง เก่าก่อน
ไว้ดับทุกข์ยับยั้ง                                       ผ่องแผ้ว
ก่อเกิดสุขพวกทั้ง                                    ทุกถิ่น แดนดิน
ความสุขยิ่งรู้แล้ว                                 ด้วยพิจารณา

………………………. (12. อุบลรัตน์ - ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)



 

13. อุบลรัตน์ แก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางอีเมล

ความสุข? (13. อุบลรัตน์ แก้ไขครั้งที่ 1)

ธิปไตยเด่นหล้า                           คู่ชาติ
แลกร่างเลือดชนหาญ                               ร่วมด้วย
นำสร้างชื่อองอาจ                                   เฉกเช่น ความดี
ลือเรื่องนามแม้ม้วย                                 มอดไหม้วายชน

            เกิดปัญหาแตกร้าว                       ทุกถิ่น แดนไทย
ชนด่าทอมิสิ้น                                         พี่น้อง
แตกแยกทั่วแดนดิน                                 ลำบาก ใจนา
ใครใคร่จิตแม้นต้อง                                  ร่วมด้วยจึ่งรัก

            หาความสุขค่ำเช้า                       ยากยิ่ง
เสียที่พาพึ่งพิง                                         ก่อกลุ้ม
ปัญหาใหญ่แอบอิง                                   เกิดเรื่อง ทุกข์เอย
คิดต่างมุมแล้วคุ้ม                                    สิ่งนี้จริงหรือ

            ปัจจุบันแต่งตั้ง                            เก้าอี้ ผู้นำ
งดแบ่งฝั่งหลากสี                                    ถิ่นข้า
แก้เรื่องวุ่นวายนี้                                      เพื่อชาติ กล่าวไว้
จะส่งผลแกล้วกล้า                                  ห่างร้างขัดแย้ง

            สุขทุกข์ควรใคร่รู้             แก่จิต
ชนใฝ่รู้ถูกผิด                                           ผ่องแผ้ว
บ้านเมืองเรื่องปกปิด                                เอาผิด ใครได้
สุขที่เห็นซ้อนแล้ว                                   สุดเศร้าอาดูร

            บทเรียนเกิดก่อซ้ำ                        สอนคน
ดังกล่าวว่าบ่งชน                                     แบ่งชั้น
จำจดคู่เตือนตน                                       นึกสั่ง ใจนา
สิ้นแผ่นดินพร้องนั้น                                อยู่ได้เยี่ยงไร

            จงหาสุขค่าล้ำ                             จากครั้ง เก่าก่อน
ไว้ดับทุกข์ยับยั้ง                                       ผ่องแผ้ว
ก่อเกิดสุขพวกทั้ง                                    ทุกถิ่น แดนดิน
ความสุขยิ่งรู้แล้ว                                 ด้วยพิจารณา

………………………. (13. อุบลรัตน์ แก้ไขครั้งที่ 1)

 

14. " ท่านชายในสายหมอก "
ส่งทางอีเมล

" สุขแต่โพ้น " (14. " ท่านชายในสายหมอก ")

๏ ประเทศชาติยุคโน้น...เพรงสมัย
สงบสุขทุกชนวัย..........เก่ากี้
ประสานผนึกหลอมใจ...เป็นหนึ่ง
แรงช่วยผลักดันชี้........ร่วมด้วยนับคณา

๏ เวลาพาลุแล้ว..........ปัจจุบัน
มนุษย์ยังเจือปัน..........แบ่งเกื้อ
รอยเอิบอิ่มพิมพ์ฝัน......ฉันสุข เธอฤๅ
ทุกอย่างงามอะเคื้อ......โลกเรื้องสุดสวย

๏ อำนวยประโยชน์เอื้อ...ผองประชา
ทุกถิ่นสถานศึกษา..........หมู่บ้าน
มวลมิตรทุกข์ยากหนา.....ประคองช่วย
สุขชื่นรายรอบด้าน.........เชื่อมไว้สมัครสมาน

๏ วงศ์วานแวดเวี่ยไว้......สดับฟัง
สามัคคีคือพลัง..............โอบอ้อม
ทุกอย่างไป่มีพัง.............ผุกร่อน
โอนอ่อนรายเรียงล้อม.....พรั่งพร้อมลูกหลาน

๏ จงจารจำจดย้ำ.............คำสอน
บรรพบรุษวอน.................ตระหนักไว้
คอยประคับประคองตอน.....เจ็บป่วย
งานเล็กงานมากให้............ผนึกสู้กำลัง

๏ ยังยืนหยัดอยู่ด้วย......เรือนชาน
ญาติมิตรประคองคาน.....ช่วยค้ำ
ใครเหิมคิดอาจหาญ.......รวมหนึ่ง ใจนา
หากจะบุกรุกล้ำ.............บั่นบู้ราญโรม

………………………. (14. " ท่านชายในสายหมอก ")

 

15. ณิชชา 
ส่งทางอีเมล

ความว่างเปล่า (15. ณิชชา)

            ว่างเปล่าเพราะว่างเว้น    อันใด
วางย่อมเป็นว่างได้                     สว่างหล้า
วางเว้นว่างเป็นไป                                   โดยทั่ว
เว้นว่างทุกหย่อมหญ้า                 ว่างได้ดีแล

จากนี้แปรเปลี่ยนให้         เป็นว่าง
ทุกสิ่งนี้มีทาง                                         ว่างได้
ทุกฝีก้าวเหยียบย่าง                     วางเด่น
เว้นว่างเป็นแล้วไซร้                                ย่อมได้สุขนา

            ทุกข์มาเพราะไม่วาง                    ว่างเว้น
ทุกข์อยู่ได้เพราะเป็น                      เช่นนั้น
มีแต่ว่างเพราะวาง                          โดยที่
แค่ปล่อยสิ่งกางกั้น                      ย่อมสิ้นทุกข์ใจ

            ว่างเป็นไปคู่เว้น              ซึ่งทาง
มัวแต่หาข้ออ้าง                          ไม่เว้น
ทางนั้นย่อมกระจ่าง                     จากเหตุ  ผลเฮย
แลย่อมมิอาจเค้น                         เหตุด้วยว่างลง

            ว่างนั้นคงย่อมแม้น          มีได้
ล้วนย่อมรำงับใจ                         ที่ฟุ้ง
แม้มีสิ่งอื่นใด                              ที่พร่ำ  บ่นเฮย
เห็นว่างวางว้างวุ้ง                       สงบได้ดีแล

            ที่แท้แล้วทุกสิ่ง               ว่างอยู่  ทุกครา
ว่างโดยวางตัวกู                          เมื่อนั้น
ตัวกูว่างลงรู้                               แค่ช่าง  มันเฮย
เห็นย่อมวางความรั้น                   ว่างเว้นตัวกู

………………………. (15. ณิชชา)

 

16. อิสินธร
ส่งทางอีเมล

ความสุข (16. อิสินธร)

ยามสุขเอมอิ่มแย้ม                      พักตร์ใด
งามยิ่งบุปผาไพร                                                 ส่ายพลิ้ว
หอบหอมผ่านแววนัยน์                            ชวนชื่น อุราเฮย
เลือนลบรอยโกรธกริ้ว                                          ผลิยิ้มเย็นงาม

            หากแต่ความเคียดขึ้ง                    ครองกมล
ทุกข์โศกย่อมบันดล                                  เดือดแค้น
เฉกม่านมืดบังตน                                    ปิดโลก -  ทัศน์นอ
มวลมิตรเหินห่างแม้น                                          อยู่ใกล้ไป่สมาน

            เพียงธารธรรมฉ่ำเลี้ยง                  จิตตา
ปรับสุขแห่งชีวา                                                  ถ่องถ้วน
เจริญสติเกิดปัญญา                                              อริยสุข สงบแล
ยกระดับความสุขล้วน                                          หมดสิ้นเกลศมัว

            เฉกบัวทิพย์ผุดพ้น                       แพรธาร
สดับพระศาสดาจารย์                                           กล่าวถ้อย
ส่ำสัตว์หมอบกราบกราน                                     สุขอิ่ม หทัยนา
สืบยุคพุทธกาลคล้อย                                            ค่าล้ำปัจจุบัน

            หอมพันธุ์มวลดอกไม้                   กลีบงาม
ห่อนเกิดในถิ่นทราม                                            เหือดแห้ง
หวังสุขอุ่นเอมคาม                                              อวลมิ่งเมืองเฮย
ห่อนเกิดจากใจแล้ง                                              ห่างไร้หลักธรรม

            จำเริญสุขชีพด้วย                         สายกลาง
แบกหนักก็ปล่อยวาง                                            ทุกข์นั้น
สมดุลย่อมสื่อทาง                                               ดูจิต ตนแล
ความสุขเคยอยู่สั้น                                               เปลี่ยนให้คงทน

            ปัจเจกชนสืบสร้าง                      ธรรมา
เข็มทิศนำทางหา                                                 สุขแท้
สังคมเปี่ยมปัญญา                                               เสมอทั่ว ชนเฮย
ปมวิกฤติจึ่งแก้                                                    สุขสร้างนิรันดร

………………………. (16. อิสินธร)

 

17. "ราเมศวร์  ละไมวงศ์"
ส่งทางอีเมล

สุขร่มรั้วรัก (17. "ราเมศวร์  ละไมวงศ์")

     ยามเด็กสุขง่ายแท้                   กินนอน
ของเล่นถือเว้าวอน                      วุ่นแล้ว
คลานเตาะแตะหัวคลอน               เริงเล่น กันเฮย
หัวเราะตาบ้องแบ้ว                     เด็กน้อยสำราญ

     อนุบาลพบเพื่อนพ้อง              แรกเจอ
ปรับเปลี่ยนสุขเคียงเกลอ               ร่วมยิ้ม
ฮัมเพลง เล่น ละเมอ                    ถึงมิตร มวลแฮ
อวลสุขอันพรายพริ้ม                    ผ่านพ้นเร็ววัน

    ประถมพลันเร่งก้าว                 กวดวิชา
แม่พ่อมุ่งสรรหา                          สิ่งล้ำ
เช้าสายบ่ายเย็นพา                                   คร่ำเคร่ง เรียนแล
ตีกรอบแข่งขันย้ำ                         ผ่านเข้ามัธยม

     ระทมดวงจิตแท้                     ทุกทาง
เก็บกดพากเพียรพลาง                  โกรธขึ้ง
ความสุขยิ่งจืดจาง                       ในครอบ ครัวนา
ต่างพิศต่างบูดบึ้ง                         ไป่เข้าใจกัน

     บางวันลูกหลบเร้น                 หนีเรียน
ติดเพื่อนห่อนพากเพียร                 ผิดพลั้ง
คุณครูพร่ำติเตียน                         บ่รับ ฟังเอย
หลงสุขลวงตา ตั้ง                        หมู่พ้องเด็กทราม

     ลุกลามเป็นเรื่องร้าย                ครอบครัว
แม่พ่อสำนึกตัว                           บีบคั้น
ลูกจงหยุดเมามัว                         อกแม่ ช้ำเฮย
น้ำเนตรปลุกลูกรั้น                       จิตฟื้นคืนดี

    ไมตรีแห่งรักล้น                       รังสรรค์
เปิดม่านหัวใจอัน                        อุ่นใกล้
พ่อแม่ลูกกอดกัน                         เอมสุข ทรวงเฮย
วิกฤติครอบครัวได้                       ดับสิ้นด้วยดี

………………………. (17. "ราเมศวร์  ละไมวงศ์")

 

18. - บุญวิว – ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
ส่งทางอีเมล

ความสุขที่ใด(18. - บุญวิว ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

๏ คิดคำคิดค่ำเช้า                         คัดคำ
ปรุงรูปแปลงรสธรรม                   เผื่อให้  
สาดแสงส่องสว่างนำ                  นรชาติ
สูเสาะแสวงสวัสดิ์ไว้                   จึ่งได้ใจความ ๚

๏ ยามยินเสียงสุขแกล้ง                สุขกาย
เสพสุขสนุกสบาย                       ร่ายร้อง
เริงเร้าเร่าเมามาย                                    ยศศักดิ์
เซ็งแซ่สรรเสริญซ้อง                   กู่ก้องเกษมศานติ์ ๚        

๏ ใดใดหาญแข่งด้วย                    เงินทอง
เสกสิ่งอันหมายครอง                   ค่อนฟ้า
สูงสุดบ่มีสอง                             รองอื่น
ดุจดั่งนิพพานข้า                          ส่งขึ้นสรวงสวรรค์ ๚

๏ คืนวันผันเปลี่ยนข้าง                 แปลงคืน
เย้าสุขเคยยั่งยืน                           ยั่วเย้า
กลับกลายก่อกล้ำกลืน                  กาลกลับ 
แสนโศกวิโยคเศร้า                       หม่นร้าวสุดแสน ๚

๏ แดนใดหาสุขได้                       ดังหมาย
ดังหมู่ผีเสื้อราย                           รอบไว้
รอบวัฏฏะมิวาย                          วนอยู่
วนอย่างว่างหยุดไซร้                    สุขนี้จีรัง ๚

๏ เพียงฟังเพียงพิศแล้ว                 ตรองตาม
พบสุขพบสิ่งงาม                         สงบได้
ทุกข์หมดทุกโมงยาม                    มีอยู่
ไกลว่าไกลแต่ใกล้                         ห่อนร้อนกลับเย็น ๚

๏ สุขเป็นเห็นเช่นนี้                     เป็นสุข
รู้ดับระงับทุกข์                            ดับรู้
รุ่มร้อนเร่งเพลิงลุก                       ร้อนรุ่ม
งามแง่งามธรรมสู้                       สุขแท้แง่งาม ๚

๏ ความ จริงคือสิ่งล้ำ                   ความจริง
สุข ซึ่งสิ้นประวิง                                    สิ่งร้าย
ที่ คนต่างช่วงชิง                          หวังครอบ ครองนา
ใจ ท่านแลดูคล้าย                        กลับค้นบ่เห็น ๚ะ๛

………………………. (18. - บุญวิว ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

 

19. - บุญวิว – แก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางอีเมล

ความสุขที่ใด(19. - บุญวิว แก้ไขครั้งที่ 1)

๏ คิดคำคิดค่ำเช้า                         คัดคำ
ปรุงรูปแปลงรสธรรม                   เผื่อให้  
สาดแสงส่องสว่างนำ                  นรชาติ
สูเสาะแสวงสวัสดิ์ไว้                   จึ่งได้ใจความ ๚

๏ ยามยินเสียงสุขแกล้ง                สุขกาย
เสพสุขสนุกสบาย                       ร่ายร้อง
เริงเร้าเร่าเมามาย                                    ยศศักดิ์
เซ็งแซ่สรรเสริญซ้อง                   กู่ก้องเกษมศานต์ ๚        

๏ ใดใดหาญแข่งด้วย                    เงินทอง
เสกสิ่งอันหมายครอง                   ค่อนฟ้า
สูงสุดบ่มีสอง                             รองอื่น
ดุจดั่งนิพพานข้า                          ส่งขึ้นสรวงสวรรค์ ๚

๏ คืนวันผันเปลี่ยนข้าง                 แปลงคืน
เย้าสุขเคยยั่งยืน                           ยั่วเย้า
กลับกลายก่อกล้ำกลืน                  กาลกลับ 
แสนโศกวิโยคเศร้า                       หม่นร้าวสุดแสน ๚

๏ แดนใดหาสุขได้                       ดังหมาย
ดังหมู่ผีเสื้อราย                           รอบไว้
รอบวัฏฏะมิวาย                          วนอยู่
วนอย่างว่างหยุดไซร้                    สุขนี้จีรัง ๚

๏ เพียงฟังเพียงพิศแล้ว                 ตรองตาม
พบสุขพบสิ่งงาม                         สงบได้
ทุกข์หมดทุกโมงยาม                    มีอยู่
ไกลว่าไกลแต่ใกล้                         ห่อนร้อนกลับเย็น ๚

๏ สุขเป็นเห็นเช่นนี้                     เป็นสุข
รู้ดับระงับทุกข์                            ดับรู้
รุ่มร้อนเร่งเพลิงลุก                       ร้อนรุ่ม
งามแง่งามธรรมสู้                       สุขแท้แง่งาม ๚

๏ ความ จริงคือสิ่งล้ำ                   ความจริง
สุข ซึ่งสิ้นประวิง                                    สิ่งร้าย
ที่ คนต่างช่วงชิง                          หวังครอบ ครองนา
ใจ ท่านแลดูคล้าย                        กลับค้นบ่เห็น ๚ะ๛

………………………. (19. - บุญวิว แก้ไขครั้งที่ 1)

 

20. ฑีดา  ญาจันทร์
ส่งทางเว็บบอร์ด

ความสุข..ในเดือนสิบ (20. ฑีดา  ญาจันทร์)

๏ คะนึงครวญคราเมื่อครั้ง                                    ครวญคะนึง
พ้นล่วงยังรำพึง                                      ล่วงพ้น
อิ่มฤทัยเมื่อนึกถึง                                   ฤทัยอิ่ม
เต้าต่อตึงแต่ต้น                                       ต่อเต้า โตงเตง

๏ เพลงอดีตดังแว่วย้อน                                        คราเยาว์
ปลื้มจิตเนิ่นนานเนา                               แน่นแล้ว
โหยหาอยู่เย็นเช้า                                     ชวนชื่น
ผจงจัดด้วยใจแผ้ว                                  ผ่องแท้ แทนคุณ

๏ ทำบุญใบเบิกฟ้า                                   ตายาย
เดือนสิบพร้อมนางนาย                            พี่น้อง
ครื้นเครงครบญาติสาย                              แสนสุข
ชิงเปรตพราวเพรียกพร้อง                         เพริศแพร้ว อานิสงส์

ขนมกงนั้นต่างแก้ว                           ประดับกาย
พองต่างเรือแพพาย                              ผ่านจ้าง
ลาแทนเครื่องห่มหาย                            หนาวห่อ
บ้าต่างของเล่นอ้าง                                           อัฐพ้อง ดีซำ

๏ เตรียมสำรับหมฺรับต้อง                          ตามบุราณ
จัดกระบวนโอฬาร                                  เลิศล้วน
แห่แหนเพื่อสืบสาน                                เสริมส่ง
วัฒนธรรมถูกถ้วน                                               สุขแท้ ไทยวิถี

๏ ประเพณีนี่นี้                                        นามระบือ
บุญสารทเดือนสิบลือ                              เลื่องล้น
ลูกหลานต่างยึดถือ                                  ทูนเทิด
เอกลักษณ์อันเข้มข้น                               คู่แม้น เมืองนครฯ

๏ แดดอ่อนอุ่นอกโอ้                                 อัสดง
ลูกจะหลบคืนคง                                                 ค่ำนี้
จากกรุงมุ่งกลับพงศ์                                             กราบพ่อ แม่เอย
ความสุขเดือนสิบชี้                                              ช่วยย้ำ กตัญญู

………………………. (20. ฑีดา  ญาจันทร์)

 

21. เตชิต
ส่งทางอีเมล

ความสุข (21. เตชิต)

สรรพสัตว์บนโลกล้วน                 เกิดมา
ต่างมุ่งแสวงหา                           สุขแท้
บำเรอจิตกายา                            ตนอยู่    สบายเฮย
ลุยไล่ไม่ยอมแพ้                           เพื่อได้ครอบครอง

ทรัพย์เงินทองผ่องแพร้ว               พรรณราย
รักลุ่มหลงลาภหมาย                    ไม่เว้น
อำนาจเกียรติกำจาย                     จดจ่อ
หากขาดบางคนเต้น                     ด่าวดิ้นปางตาย

ความหมายเพียงเท่านี้                  เองหรือ
สุขที่แสนเลื่องลือ                        อยากได้
หากทรัพย์ชื่อเสียงคือ                   คำตอบ
เราย่อมเหมือนคนไร้                    ห่างด้วยปัญญา

ศาสนาว่าไว้                               สุขี
หนึ่งร่างกายเปรมปรีดิ์                  โรคร้าง
สองจิตที่ยินดี                              สงบนิ่ง
สองสิ่งนี้จงสร้าง                         สุขแท้แสนงาม

ความสุขเปรียบดาบแก้ว               สองคม
ใช้ปราบศึกทุกข์ตรม                    ฆ่าได้
หากใช้ผิดขื่นขม                          เป็นแน่
มันอาจย้อนบาดให้                      ปวดร้าวทรมาน

นิพพานสอนดับสิ้น                     ทุกขา
เพียงปล่อยวางหยุดหา                  สิ่งเย้า
พอใจกอปรศรัทธา                       สิ่งที่      มีเอย
สำเร็จแล้วจึงเข้า                         สู่หล้าแสนเกษม

………………………. (21. เตชิต)

 

22. ฉัตรปกรณ์ 
ส่งทางอีเมล

ความสุขบริสุทธิ์ (22. ฉัตรปกรณ์)

บัวบริสุทธิ์ซ้อง                           เสพธรรม
นอบนบอณูนำ                            แนบเนื้อ
บานเบิกอรุณอำ-                         ไพภาพ  ภพแล
อวลกลิ่นผกาเกื้อ                         แช่มเช้าชีวธรรม

สัมมาสัมพุทธเจ้า                       จอมชีว์
ประทับทิพย์ ณ ธีร์                      ทุกผู้
เล็งลอดเหล่าสตรี                        บุรุษ
ลิขิตสัมฤทธิ์รู้                             เลิศล้วนนิลุบล

สุริยนยาตรเยื้อง                           บัวจม
บัวย่อมเปรอะโสมม                    ต่ำเตี้ย
รวีแห่งโคดม                               ย่อมไม่  เห็นแล
เลอะเปือกเหม็นยะเยี้ย                  หยั่งเหง้างมงาย

เหล่าบัวสายร่ายฟ้อน                   นที
เพียงแต่เริงวารี                            ต่ำใต้
ย่อมเป็นเหยื่อกุมภีล์                     กรกฎ  กินนา
หากแต่ซับธรรมไซร้                    ย่อมพ้นหม่นมัว

บัวระบำขอบน้ำ                          ปริ่มปริ่ม
บานเบิกอุบลริม-                         สระคุ้ง
ใกล้เห็นปรนิม-                           มิตว-  สวัตดี
คาบกึ่งระหว่างรุ้ง                        สู่ยุ้งสวรรยา

อาทิตย์เบิกบุษย์ช้อย                     กลีบฉ่ำ
เชิดรับอณูธรรม                          ถ่องแท้
เหนืออรรณพระบำ                      กลีบร่าย
รวิธรรมกรรมแก้                         เกิดแก้วกรรมมณี

สี่เหล่าบัวแบ่งเบื้อง                     มนุษย์
สุคตเลิศบุรุษ                              ตรัสรู้
บัวหากเบิกบานผุด                      พบสุข  นั่นนา
สุขซึ่งเกิดจากผู้                           พบห้องแห่งธรรม์

ความสุขอันเลิศแล้ว                    นิพพาน
หากพบธรรมก็ปาน                     เปรียบได้
ละกิเลสสันดาน                          เพื่อพบ  สุขแล
บัวผุดพ้นน้ำไซร้                          สุขพ้นหม่นมัว

บัวสงบพบได้                             ด้วยธรรม
สุขพบได้ด้วยคำ-                         พระพร้อม
ธรรมสุขปลุกจิตนำ                      นิรมิต  ตนนา
จิตเบิกปานบัวค้อม                      นอบน้อมจอมกมล

………………………. (22. ฉัตรปกรณ์)

 

23. ชาตรี ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
ส่งทางอีเมล

ศานติโศลก (23. ชาตรี ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

โศลกสลักสร้อย               สวาทศิลป์
ก่องกล่อมธรณิน                         ทรด้าว
ปางวิโยคโขมดทมิฬ                     ทโมนกเลส

อีกวัสสการพราหมณ์ห้าว             ห่อนเหี้ยนใจเมือง

เรืองร่มทศรถเชื้อ             อวตาร
แต่หิรันตยักษ์กาล                        ก่อนแล้ว
สรรเพชญศาสดาจารย์                  ศานต์ศาสน์  ศีลนอ
อิสลามคริสต์แพร้ว                      พร่างเคื้อสมัครไท

จวบเภทภัยกระเบื้อง       ฟูลอย
พลพฤฒกระเดื่องพลอย                กระด้าง

อชาตศัตรูคอย                             ขจัด
ราษฎร์รุษฏ์นิราศร้าง                   รักรั้วระเนน

            เกณฑ์รี้กระหึ่มห้อง         หับมโน
งำเงื่อนทิฐิโม-                            หะเหี้ยม
หอบฟางห่าโลโภ                         โทสะ
วัสสการพราหมณ์เสี้ยม               เศิกกล้าหทัยเหิม

ทบเติมท่าวแตกต้อง        ไผท
ไฟประราญประลัย                       ประเวศแว้ง
ศาปกำสลดไพ-                           ศาลทัศ เทวษแล
อุทกธารศานต์แห้ง                      เหือดแล้งวัชชี

            ศรีอโยธยามิสิ้น               ศักดิ์ศรี
ศรีราชพระเดชตรี-                       โลกค้อม
ศรีพลเมืองดี                               ดิลก
ยั้งอุบายพรักพร้อม                       ขับพ้นวัสสการ

            โศลกศานติสร้อย             สวาทศิลป์
สรรเสริญธรณิน                          แน่นแฟ้น
ทะนุถนอมบุรินทร์                      เรืองรุ่ง
คืนสุขเขษมแป้น                         ปลอบรู้รักสงวน  โสตถิเทอญ

………………………. (23. ชาตรี ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

24. ชาตรีแก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางอีเมล

ศานติโศลก (24. ชาตรี แก้ไขครั้งที่ 1)

โศลกสลักสร้อย               สวาทศิลป์
ก่องกล่อมธรณิน                         ทรด้าว
ปางวิโยคโขมดทมิฬ                     ทโมนกเลส

อีกวัสสการพราหมณ์ห้าว             ห่อนเหี้ยนใจเมือง

เรืองร่มทศรถเชื้อ             อวตาร
แต่หิรันตยักษ์กาล                        ก่อนแล้ว
สรรเพชญศาสดาจารย์                  ศานต์ศาสน์  ศีลนอ
อิสลามคริสต์แพร้ว                      พร่างเคื้อสมัครไท

จวบเภทภัยกระเบื้อง       ฟูลอย
พลพฤฒกระเดื่องพลอย                กระด้าง

อชาตศัตรูคอย                             ขจัด
ราษฎร์รุษฏ์นิราศร้าง                   รักรั้วระเนน

            เกณฑ์รี้กระหึ่มห้อง         หับมโน
งำเงื่อนทิฐิโม-                            หะเหี้ยม
หอบฟางห่าโลโภ                         โทสะ
วัสสการพราหมณ์เสี้ยม               เศิกกล้าหทัยเหิม

ทบเติมท่าวแตกต้อง        ไผท
ไฟประราญประลัย                       ประเวศแว้ง
ศาปกำสรดไพ-                           ศาลทัศ เทวษแล
อุทกธารศานต์แห้ง                      เหือดแล้งวัชชี

            ศรีอโยธยามิสิ้น               ศักดิ์ศรี
ศรีราชพระเดชตรี-                       โลกค้อม
ศรีพลเมืองดี                               ดิลก
ยั้งอุบายพรักพร้อม                       ขับพ้นวัสสการ

            โศลกศานติสร้อย             สวาทศิลป์
สรรเสริญธรณิน                          แน่นแฟ้น
ทะนุถนอมบุรินทร์                      เรืองรุ่ง
คืนสุขเขษมแป้น                         ปลอบรู้รักสงวน  โสตถิเทอญ

………………………. (24. ชาตรี แก้ไขครั้งที่ 1)

 

25. ชาตรีแก้ไขครั้งที่ 2
ส่งทางอีเมล

ศานติโศลก (25. ชาตรี แก้ไขครั้งที่ 2)

โศลกสลักสร้อย               สวาทศิลป์
ก่องกล่อมธรณิน                         ทรด้าว
ปางวิโยคโขมดทมิฬ                     ทโมนกเลส

อีกวัสสการพราหมณ์ห้าว             ห่อนเหี้ยนใจเมือง

เรืองร่มทศรถเชื้อ             อวตาร
แต่หิรันตยักษ์กาล                        ก่อนแล้ว
สรรเพชญศาสดาจารย์                  ศานต์ศาสน์  ศีลนอ
อิสลามคริสต์แพร้ว                      พร่างเคื้อสมัครไท

จวบเภทภัยกระเบื้อง       ฟูลอย
พลพฤฒกระเดื่องพลอย                กระด้าง

อชาตศัตรูคอย                             ขจัด
ราษฎร์รุษฏ์นิราศร้าง                   รักรั้วระเนน

            เกณฑ์รี้กระหึ่มห้อง         หับมโน
งำเงื่อนทิฐิโม-                            หะเหี้ยม
หอบฟางห่าโลโภ                         โทสะ
วัสสการพราหมณ์เสี้ยม               เศิกกล้าหทัยเหิม

ทบเติมท่าวแตกต้อง        ไผท
ไฟประราญประลัย                       ประเวศแว้ง
ศาปกำสรดโศกไพ-                      ศาลทัศ เทวษแล
อุทกธารศานต์แห้ง                      เหือดแล้งวัชชี

            ศรีอโยธยามิสิ้น               ศักดิ์ศรี
ศรีราชพระเดชตรี-                       โลกค้อม
ศรีพลเมืองดี                               ดิลก
ยั้งอุบายพรักพร้อม                       ขับพ้นวัสสการ

            โศลกศานติสร้อย             สวาทศิลป์
สรรเสริญธรณิน                          แน่นแฟ้น
ทะนุถนอมบุรินทร์                      เรืองรุ่ง
คืนสุขเขษมแป้น                         ปลอบรู้รักสงวน  โสตถิเทอญ

………………………. (25. ชาตรี แก้ไขครั้งที่ 2)

 

26. ธนพร
ส่งทางอีเมล

ความสุขที่แน่แท้ (26. ธนพร)

            สิ่งใดยากเที่ยงแท้                        ทนทาน
ดังกฎแต่ก่อนกาล                                    กล่าวไว้
มีความสุขไม่นาน                                   เศร้าหม่น
คนเก่งยังแพ้ได้                                        เพราะไร้ความเพียร

            ข้าวของทรัพย์มากล้น                  เรืองรอง

เกียรติกู่ก้องใฝ่มอง                                   สู่ฟ้า
สำเร็จวิ่งลาพอง                                      โดดเด่น
ทุกข์แทรกแรงอ่อนล้า                              เคราะห์ซ้ำสักวัน


            คิดต่างจึงแบ่งข้าง                        ขัดใจ
ต่างฝ่ายต้องบรรลัย                                  ขาดสิ้น
บาดเจ็บร่างดับไป                                    มีแต่ สูญเสีย
คืนสุขไม่เล่นลิ้น                          ร่วมสร้างปรองดอง

            ชนผองทั่วโลกหล้า                      เกิดมา
ล้วนย่อมมีโลภา                                      เร่าร้อน
ความสุขดุจจินดา                                    มากค่า
เฝ้านั่งรอวอนอ้อน                                   จับจ้องครอบครอง          

            สุขนอกปองอยากได้                     เคยชิน
ลืมสิ่งเคียงชีวิน                                       ชิดใกล้
สนใจใส่ยลยิน                                         แม่พ่อรอคอย
ที่ว่างวางรักให้                                        อุ่นฟุ้งตลอดกาล

            วานทุกข์พรุ่งสุขได้                      ด้วยใจ
เพียงคิดก่อกิจไกล                                    เพริศแพร้ว
คิดสุขย่อมดับไฟ                          ร้อนรุ่ม
จิตมั่นช่วยโอบอุ้ม                                    ไม่แพ้ภัยพาล

            สุขหวานไม่แน่แท้                       ยืนยง
จิตมั่นธรรมดำรง                                     ยึดไว้
ทุกข์มาย่อมสุขลง                                    แค่เปลือก
สุขยิ่งจริงเกิดไซร้                                     ตื่นรู้ เห็นจริง

………………………. (26. ธนพร)

 

27. ฑีดา  ญาจันทร์
ส่งทางอีเมล

แค่ไม่ทุกข์..ก็สุขแล้ว (27. ฑีดา  ญาจันทร์)

๏ ร้อนรนทนปวดท้อง                    ทรมาน
ข้าศึกรุกบุกทวาร                                     วุ่นปล้ำ
สุขาอยู่ไหนนาน                                      หนอนี่
ขอแค่เข้าห้องน้ำ                                     สุขนั้นนองเนือง

๏ เรื่องหิวไส้กิ่วม้วน                    มากมาย
เฝ้าแต่กลืนน้ำลาย                        หล่อเลี้ยง
หยดน้ำหยุดกระหาย                     ยามอด
กินดื่มดับทุกข์เกลี้ยง                    กลับยิ้มสุขเยือน

๏ เตือนตนตอนโรคร้าย                 แรงมา
เจ็บป่วยเจียนชีวา                        หวิดม้วย
มิอยากจะดิ้นหา                          ใดอีก
รอแต่ไข้หายด้วย                          สุขได้โดยดี

๏ มีคนแขนกุดด้วน                     เด็กดาวน์
บ้างพิการกายราว                        เหลือบแร้ง
บอดใบ้บ่รู้หนาว                          นอนเกร่อ
เพียงร่างครบสยบแย้ง                  สุขย้อนยืนยาว

๏ ชิงดาวเดือนเกลื่อนฟ้า               เฟือนจันทร์
บ้านใหญ่รถหลายคัน                    แข่งสู้
ร่ำรวยเร่งจัดสรร                         สร้างแต่ ทุกข์นา
แค่รักอบอุ่นรู้                              สุขรั้งคืนเรือน

๏ อย่าเลือนคำพ่อพ้อง                  พอเพียง
ปลดปล่อยทุกข์สุขเรียง                 สลัดร้อน
โลภหลงสับขึ้นเขียง                     คอยตัด
ขอแค่หายใจสะท้อน                    ผ่อนได้ดีเสมอ

………………………. (27. ฑีดา  ญาจันทร์)

 

28. ณัฏฐพล 
ส่งทางอีเมล

ความสุข (28. ณัฏฐพล)

๏ สุขกายแสนสุขด้วย                  ราคา
มากทรัพย์อีกยศถา                       ศักดิ์แพร้ว
พิพิธหิรัญวรรณา                         วาววับ
บริวาร บ ไกลแคล้ว                     แวดล้อมอินทรีย์ ฯ

๏ อาภรณ์มีมากล้วน                   ประดับตน
ทองเพชรสวมคอจน                    หนักแหน้น
พาณิชย์แผ่ผลิตผล                       หลายเท่า   ทวีนา
โกยกอบกำไรแม้น                       ทุ่มถ้วมถมกาย ฯ

๏ หลายคนมัวมุ่งคว้า                   สุขภาย  นอกแฮ
จึงแลกเงินตราหลาย                    แลกได้
กระทั่งแลกเรือนกาย                    ยอมแลก
สุขแค่วูบเดียวไซร้                       บ่แม้นนิรันดร ฯ             

            ๏ นอน บ นอนหลับด้วย   หวงทรัพย์
เรือนรถคณานับ                          แวดล้อม
ระแวงเกียรตินามดับ                    แดด่าว
กรกอดกุมทรัพย์ห้อม                   ห่อพร้อมอสุภา ฯ

            ๏ กายาวายชีพแล้ว          แสวงหา  สุขเฮย
หลานลูกผูกศรัทธา                      ร่วมแล้ว
ทำบุญกุศลพา                             สวรรค์ส่ง
อุทิศเงินแลกทุกข์แคล้ว                เผื่อผู้มรณัง ฯ

            ๏ อนิจจังคือสิ่งแท้          แกนธรรม์
มีมากอาจสูญพลัน                      ทุกข์เศร้า
บ มีสิ่งสารพัน                            อาจสุข
ไกลทุกข์ระคนเคล้า                      สุขป้องเปรียบใจ

๏ รู้ให้รู้แบ่งด้วย                          บริจาค 
ศฤงทรัพย์นับเหลือหลาก              แบ่งให้
ละโลภยศมักมาก                        ระงับจิต
สุขแบ่งสุขจึงได้                          สุขได้โดยใจ ฯ

………………………. (28. ณัฏฐพล)

 

29. นวพล
ส่งทางอีเมล

ความสุข (29. นวพล)

การเมืองไทยรุ่มร้อน        ปีกลาย                         
เหตุก่อม็อบวุ่นวาย                      ทั่วด้าว
มีเจ็บป่วยล้มตาย                         ชีพดับ
เหล่าประชาปวดร้าว                    ทุกข์เพี้ยงไฟรุม                          

ชุมนุมยังยืดเยื้อ               เกินไป
ทหารยึดอธิปไตย             สุดห้าม                                    
รัฐประหารไทย                           หมายมุ่ง สงบนา

ประยุทธ์หวังชาติข้าม              เรื่องร้ายเป็นพอ

คสช. เร่งสร้าง                สุขศานต์ คืนเฮย
ตรวจสุขภาพบริการ                    ทั่วหน้า            
โปรโมชั่นอาหาร             จ่ายครึ่ง เดียวแฮ
คอนเสิร์ตทหารกล้า                     เล่นร้องตามกัน

อันความสุขได้รับ            คืนมา
ใช่...รับฟรีหยูกยา                        เจ็บไข้
ใช่...ได้ลดราคา                           โออิชิ
ฤๅสนุกสนานให้                         สุขล้ำดวงแด

ความสุขแท้เริ่มได้           ใจเรา
มองโลกพินิจเอา                         ทุกด้าน
ไม่หลงผิดมัวเมา                         ทิฐิ  ตนนา
คิดก่อนพูดคัดค้าน                       ย่อมรู้ระวัง

สุข...จะบังเกิดขึ้น           ทันที
สุข...จากสามัคคี                         ทุกข้าง
สุข...จากไม่แบ่งสี                       แบ่งพรรค พวกนอ                                  
สุข...จากตัวเราสร้าง                   สุขแท้นิรันดร์ขวัญ

………………………. (29. นวพล)

 

30. ศุภกร
ส่งทางอีเมล

ความสุข (30. ศุภกร)

ความทุกข์ทำโศกเศร้า      เสียใจ
แรงร่างพลอยหมดไฟ                   เหนื่อยล้า
ความสุขส่องสดใส                      ปลุกจิต
นำร่างลุกแรงกล้า                        หยัดสู้ชีวิน

สุขคือสินทรัพย์สร้าง        กำลัง
ชุบช่วยชีพพองพัง                        ผ่านพ้น
เป็นยายอดประทัง                       ซับพิษ
กายป่วยโรครุมล้น                       สุขเลี้ยงอาจหาย

หลายคนครองสุขด้วย       เงินทอง
กอบเก่งโกยมากอง                      ท่วมฟ้า
บางคนสุขเพราะมอง                   เพียงชื่อ- เสียงนอ
ขอแค่เกียรติเกริกหล้า                   สุขนั้นจริงหรือ

บ้างถือกิเลสคล้าย            ครรลอง
เสพสุขโดยจิตปอง                       ร่านเร้า
ยากหาสุขทันสนอง                     ความอยาก
สุขไม่พอหมองเศร้า                     หื่นไห้โหยหา

ปรารถนาสุขแท้              ใจตน นั่นแล
ใจหยุดใจพึงผล                           นิดน้อย
จักดีกว่าทุกข์ทน                         เพราะโลภ                                 
มีหนึ่งมิหมายร้อย                        เท่านี้ปรีดิ์เปรม

ขวัญเกษมสุขผ่องแผ้ว      นำพา
อุปสรรคในโลกา             อ่านรู้
ขวากหนามดั่งบุปผา                    เชยชื่น
ชีพสุขเพียงลุกสู้                          ฝ่าห้วงหัวใจ

หมดสงสัยสุขแล้ว           เพียงพอ
จงมอบรักถักทอ                          เพื่อนบ้าง
ประสงค์ดีอย่ารีรอ                       รีบเร่ง                                       
เพียรแผ่คนรอบข้าง                      ต่างล้วนยินดี

ความสุขมีเที่ยงแท้          อำไพ
คือสุขจากภายใน                         อยู่ยั้ง
โหยหาสุขกลับไกล                       ความสุข                                   
ละสุขละกิเลสรั้ง                         ย่อมได้สุขจริง

………………………. (30. ศุภกร)

 

31. อำพันเทพ
ส่งทางอีเมล

ความสุข (31. อำพันเทพ)

ความสุขในโลกนี้            มีหลาก- หลายแฮ
สุขที่บังเกิดจาก                           ยศไซร้
ร่ำรวยเงินทองมาก                      มั่งคั่ง
มีหมู่ชนนบไหว้                          แซ่ซ้องสรรเสริญ

เจริญปัจจัยสี่พร้อม          สุขจริง
มีที่อยู่พักพิง                               ค่ำเช้า
ยาอีกโภชนาอิง                           เครื่องห่ม กายนา
หากสี่สิ่งครบเข้า                         อยู่ได้โดยสบาย

สุขกายด้วยถิ่นด้าว           กำเนิด
ประเทศไทยบรรเจิด                     เพริศแพร้ว
สมบูรณ์ผลิตผลเลิศ                     อุดมยิ่ง 
คือโชคดีทวีแล้ว                          ที่ได้เป็นไทย

สุขใต้ร่มฉัตรฟ้า              พระภูมิพล
พระเกียรติเกริกธราดล                  เด่นฟ้า
พระดับทุกข์ผองชน                     ทั่วเขต
พระสถิตแนบขวัญหล้า                หล่อเลี้ยงไผทนิรันดร์

หากสุขสันต์เลิศแล้ว        เหนือใด
คือคิดสร้างสุขใจ                         ที่แท้
ยั่งยืนจากภายใน                          ย่อมอยู่ ยั้งนอ
ตามหลักพุทธศาสน์แล้                 สุขด้วยมีธรรม

นำจิตใจผ่องแผ้ว             บริสุทธิ์
ละ
กิเลสลุ วิมุตติ                 หลุดพ้น
เจริญรอยพระพุทธ-                     องค์ตรัส  สอนเอย
ย่อมเกิดบรมสุขล้น                      ค่าล้ำอนันต์คุณ

………………………. (31. อำพันเทพ)

 

32. สมบัติ
ส่งทางอีเมล

ความสุข (32. สมบัติ)

....สุข ฤ ด้วยได้เสพ................สรรพ์ประสงค์  
สุข ฤ ชีพยืนยง.......................หยัดร้อย
สุข ฤ ศักดาคง........................คู่หวาด...ระแวงนอ
สุข ฤ เกียรติ ลับคล้อย.............ขบเขี้ยวสาป"สูญ"

....เสพสุข พูนล้นแต่................ตัณหา
เสพสุข อวดอวิชชา.................ชั่วช้า
เสพสุข โศกสลับมา.................มิหยุด
เสพสุข ได้โลกหล้า.................ฤ พ้นดับขันธ์

....แสวงสุข อันชอบแล้............ลุควร
แสวงสุข "ถูก"แนวกระสวน........สืบค้น
แสวงสุข มิเรรวน.....................ละ-หยุด
แสวงสุข แม้ดั้นด้น...................ดั่งเข้าทัณฑ์สถาน  

....สุข เบิกบานเช้าจรด............จวบคืน
สุข ซึ่งพระคุณยั่งยืน...............หยัดเลี้ยง
สุข สันติสงบด้วยผืน...............พระธรรมปรก
สุข ซาบซึ้งกล่อมเกลี้ยง..........กิเลสสิ้นสูญสลาย

....สบสุข กายจิตเอื้อ..............อารี
สบสุข ด้วยพ(ะ)ลี..................รับใช้
สบสุข ทุกกาลวิถี...................สถานถิ่น
สบสุข มั่นดีไว้.......................วุ่นสิ้นจิตไสว 

....พูนสุข ให้ทุกผู้..................เพียรผจญ...โลกย์นา
พูนสุข แด่ผองสกล................แกร่งสู้
พูนสุข สู่มรรคผล...................พิสุทธิ์จรัส
พูนสุข "ตัดตน"รู้....................รอดพ้นทุกขา

………………………. (32. สมบัติ)

 

33. วิวรรธน์
ส่งทางอีเมล

ความสุข (33. วิวรรธน์)

ความสุขมีหลากล้น         ความสุข
สุขเล่นเล่นสนุก                          เด็กน้อย
สุขสงบไร้ทุกข์                            จิตหลุด- พ้นแล
สุขชั่วจิตด่างพล้อย                      สุขด้วยอบาย

สุขกายได้พักแล้ว             ได้ที
สุขรักรักใคร่มี                             คู่แล้ว
สุขวันศุกร์สุดดี                           ได้หยุด พักเฮย
สุขเพราะลูกศิษย์แก้ว                   สอบได้สมหวัง

พลังความสุขนี้               มีเกิด ดับนา
สุขด้วยจิตประเสริฐ                     สุขถ้วน
สุขด้วยอบายเลิศ                         หลากเล่ห์
ลาภยศกิเลสล้วน                         สุขได้ชั่วยาม

ความสุขที่สุขด้วย           จิตใจ
ดีกว่ามีสุขใน                              ลาภแท้
ลาภมีและหมดไป                       ดุจดั่ง น้ำนา
แต่จิตสุขสงบแล้                         อยู่ได้สืบนาน

มารจิตต้องคิดแก้             ด้วยธรรม
หยุดทุกข์เสพบ่วงกรรม                ชั่วช้า
อริยะสัจสี่ นำ                             ดับทุกข์
สติปัญญากล้า                             ร่วมแก้สุขเทียม

ตั้งสติเปี่ยมสุขด้วย           ธรรมะ
ขันติข่มตบะ                               ละได้
โลภหลงและโทษะ                      จงดับ
เมื่อจิตหลุดพ้นไซร้                      สิ่งนี้คือสุข

………………………. (33. วิวรรธน์)

 

34. ชูชาติ
ส่งทางเว็บบอร์ด

ฐาน-เทียม-แท้ (34. ชูชาติ)

มีอาหารหล่อเลี้ยง..........บำรุง
กินเพื่อเผื่อผดุง.................ชีพไว้
ดิบสุกผ่านการปรุง.............ข้าวอุ่น มีเนอ
สุขแต่อาหารได้.........อยู่ยั้งมีแรง

มีอาภรณ์ห่มเนื้อ...........บังแสง
ผ้าแผ่นกันแมลง.............กัดเนื้อ
หนาวเย็นห่อนทิ่มแทง.......ผิวผ่อง พรรณแพร
สุขสิ่งใส่สรวมเสื้อ.........แผ่นผ้าคลุมกาย

มีเคหาอยู่ยั้ง...............สบาย
พิรุณบ่มิกราย............ตกต้อง
นิทราย่อมผ่อนคลาย.....หายห่วง กังวล
สุขซึ่งพึงมีห้อง........หนึ่งบ้านเรือนนอน

มีทรัพย์จับจ่ายใช้.........คืนทอน
รวยเงินบ่อาวรณ์...............ก่อนซื้อ
เหลือแหล่แผ่เที่ยวจร.........บุญแบ่ง สบายแฮ
สุขสิ่งทรัพย์หมื่นตื้อ...........ย่อมยิ้มพิมพ์ใจ

ไร้โรคโลมรุกเร้า.................นอกใน
สุขภาพพลานามัย..........................แกร่งกล้า
โหยหาห่างเภทภัย................หมายมุ่ง เนานาน
หวังใคร่ได้ทั่วหน้า...............แต่ต้นพื้นฐาน

สรรเสริญลาภยศล้วน...........นอกกาล
เพียงพอกหลอกวิญญาณ.................ไป่แท้
พาลเพิ่มเริ่มเชื้อสาร........................ต่อแต่ เทียมเนอ
ดำดิ่งยิ่งพ่ายแพ้.........................ดักไว้ประหาร

เกษมจิตนิ่งไว้...............เนานาน
สุขแต่พระนิพพาน.........ค่าล้น
เหนือสุขส่งพ้นกาล........ผันผ่าน สมมุติเฮย
สุขซ่านควรค่าค้น...........ก่อเกื้อใจเรา

หนักหนาวางว่างเว้น.........บางเบา
ทุกข์ห่างจางบรรเทา.......ลึกล้ำ
จิตนิ่งยิ่งงามเงา.............จรัสแจ่ม สัจจัง
เพื่อผ่านพ้นสิ่งซ้ำ...........เสพซ้อนเกินพอดี

สุขนอกหลอกล่อเลี้ยง…………ชั่วชีวี
ยื้อแย่งแข่งนาที.....................ไป่เว้น
ปรารถนาล่าราวี....................ชิงช่วง เพิ่มพูน
ร้อนรุ่มสุมไฟเน้น................ก่อเชื้อเวรกรรม

สุขในนิ่งเที่ยงแท้...........ทิพย์ธรรม
ใจนิ่งยิ่งน้อมนำ........................ค่าล้น
สงบส่งโล่งจดจำ.......................พร่ำดิ่ง นฤพาน
สุขเที่ยงแท้แลพ้น...............จิตนี้สุขเป็น

………………………. (34. ชูชาติ)

 

35. ยงยุทธ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
ส่งทางเว็บบอร์ด

วัฏจักรหมุนกลับ (35. ยงยุทธ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

๑. สัจธรรมค้ำโลกหล้า                 ดำรง
สุข-ทุกข์เสมอคง                         เวี่ยไว้
สังสารวัฏวง-                             เวียนว่าย วนแฮ
อริยมรรคนั่นไซร้                         กระจ่างแจ้งนิพพาน

 ๒. รัฐประหารใช่แก้                   ปัญหา
ว่างเปล่าอนัตตา                          ต่อต้าน
อหิงสาบ่อหังการ์                        ดื้อแพ่ง
โลกธาตุสั่นสะท้าน                      มึดครึ้มอวิชา

๓. ดั่งมนตราสะกดไว้                  วิญญาณ
ตลอดอสงไขยกาล                       เนิ่นช้า

ศรัทธาดับอันตธาน                      สูญเปล่า
สงบ"สุข/ทุกข์"ทั่วหล้า                 สยบด้วยกำลัง

๔ .ความหวังริบหรี่แล้ว               เสรี
อธิปไตยในฤดี                             ด่าวดิ้น
ริดรอนสิทธิ์ฤๅมี                          สุขแน่- แท้นา
เชื่อง"เชื่อ"ทุกข์จักสิ้น                   สุขล้นอกาลิโก

๕. โมหะจริตปิดกั้น                     ปัญญา
อัดแน่นด้วยอัตตา                        ท่วมท้น
"วัฏจักร"แห่งเวลา                       "หมุนกลับ"
มหากาพย์เพียงเริ่มต้น                  ตื่นเต้นตกตะลึง

 ๖.พึงศิโรราบคาบแก้ว                 จำนง
"ปฏิวัติ"วัตรยังคง                        ภาพย้ำ
 ประชาธิปไตยปลง                      เปลื่อยเปล่า
 ประวัติศาสตร์"ซ้ำ"                     ซ่อนเร้นปริศนา

๗. ชนถวิลหา"ดอกไม้"                ห่อนใช่ ปลายปืน
ปลดปล่อยวิญญาณคืน                 ผ่องแผ้ว
ภราดรภาพยั่งยืน                         สงบสุข
"สันติภาพ"เพริศแพร้ว                 พรั่งพร้อมภิญโญ

………………………. (35. ยงยุทธ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

 

36. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางเว็บบอร์ด

วัฏจักรหมุนกลับ (36. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 1)

๑. สัจธรรมค้ำโลกหล้า                 ดำรง
สุข-ทุกข์เสมอคง                         เวี่ยไว้
สังสารวัฏวง-                             เวียนว่าย วนแฮ
อริยมรรคนั่นไซร้                         กระจ่างแจ้งนิพพาน

 ๒. รัฐประหารใช่แก้                   ปัญหา
ว่างเปล่าอนัตตา                          ต่อต้าน
อหิงสาบ่อหังการ์                        ดื้อแพ่ง
โลกธาตุสั่นสะท้าน                      มึดครึ้มอวิชชา

๓. ดั่งมนตราสะกดไว้                  วิญญาณ
ตลอดอสงไขยกาล                       เนิ่นช้า

ศรัทธาดับอันตธาน                      สูญเปล่า
สงบ"สุข/ทุกข์"ทั่วหล้า                 สยบด้วยกำลัง

๔ .ความหวังริบหรี่แล้ว               เสรี
อธิปไตยในฤดี                             ด่าวดิ้น
ริดรอนสิทธิ์ฤๅมี                          สุขแน่- แท้นา
เชื่อง"เชื่อ"ทุกข์จักสิ้น                   สุขล้นอกาลิโก

๕. โมหะจริตปิดกั้น                     ปัญญา
อัดแน่นด้วยอัตตา                        ท่วมท้น
"วัฏจักร"แห่งเวลา                       "หมุนกลับ"
มหากาพย์เพียงเริ่มต้น                  ตื่นเต้นตกตะลึง

 ๖.พึงศิโรราบคาบแก้ว                 จำนง
"ปฏิวัติ"วัตรยังคง                        ภาพย้ำ
 ประชาธิปไตยปลง                      เปลื่อยเปล่า
 ประวัติศาสตร์"ซ้ำ"                     ซ่อนเร้นปริศนา

๗. ชนถวิลหา"ดอกไม้"                ห่อนใช่ ปลายปืน
ปลดปล่อยวิญญาณคืน                 ผ่องแผ้ว
ภราดรภาพยั่งยืน                         สงบสุข
"สันติภาพ"เพริศแพร้ว                 พรั่งพร้อมภิญโญ

………………………. (36. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 1)

 

37. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 2
ส่งทางเว็บบอร์ด

วัฏจักรหมุนกลับ (37. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 2)

๑. สัจธรรมค้ำโลกหล้า                 ดำรง
สุข-ทุกข์เสมอคง                         เวี่ยไว้
สังสารวัฏวง-                             เวียนว่าย วนแฮ
อริยมรรคนั่นไซร้                         กระจ่างแจ้งนิพพาน

๒. รัฐประหารใช่แก้                    ปัญหา
 ว่างเปล่าอนัตตา                         ต่อต้าน
 อหิงสาบ่อหังการ์                       ดื้อแพ่ง
 โลกธาตุสั่นสะท้าน                     มึดครึ้มอวิชชา

๓. ดั่งมนตราสะกดไว้                  วิญญาณ
ตลอดอสงไขยกาล                       เนิ่นช้า
ศรัทธาดับปนิธาน                       สูญเปล่า
สงบ"สุข/ทุกข์"ทั่วหล้า                 สยบด้วยกำลัง

๔ .ความหวังริบหรี่แล้ว               เสรี
อธิปไตยในฤดี                             ดับดิ้น
ริดรอนสิทธิ์ฤๅมี                          สุขแน่- แท้นา
เชื่อง"เชื่อ"ทุกข์จักสิ้น                   สุขล้นภิญโญ

๕. โมหะจริตปิดกั้น                     ปัญญา
อัดแน่นด้วยอัตตา                        ท่วมท้น
"วัฏจักร"แห่งเวลา                       "หมุนกลับ"
มหากาพย์เพียงเริ่มต้น                  ตื่นเต้นตกตะลึง

๖.พึงศิโรราบคาบแก้ว                  จำนง
"ปฏิวัติ"วัตรยังคง                        ภาพย้ำ
ประชาธิปไตยปลง                       เปลื่อยเปล่า
ประวัติศาสตร์"ซ้ำ"                      ซ่อนเร้นปริศนา

 ๗. ชนถวิลหา"ดอกไม้"               ห่อนใช่ ปลายปืน
ปลดปล่อยวิญญาณคืน                 ผ่องแผ้ว
ภราดรภาพยั่งยืน                         สงบสุข
"สันติภาพ"เพริศแพร้ว                 พรั่งพร้อมอรุณสมัย

………………………. (37. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 2)

 

38. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 3
ส่งทางเว็บบอร์ด

วัฏจักรหมุนกลับ (38. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 3)

๑. สัจธรรมค้ำโลกหล้า                 ดำรง
สุข-ทุกข์เสมอคง                         เวี่ยไว้
สังสารวัฏวง-                             เวียนว่าย วนแฮ
อริยมรรคนั่นไซร้                         กระจ่างแจ้งนิพพาน

๒. รัฐประหารใช่แก้                    ปัญหา
 ว่างเปล่าอนัตตา                         ต่อต้าน
 อหิงสาบ่อหังการ์                       ดื้อแพ่ง
 โลกธาตุสั่นสะท้าน                     มึดครึ้มอวิชชา

๓. ดั่งมนตราสะกดไว้                  วิญญาณ
ตลอดอสงไขยกาล                       เนิ่นช้า
ศรัทธาดับปณิธาน                       สูญเปล่า
สงบ"สุข/ทุกข์"ทั่วหล้า                 สยบด้วยกำลัง

๔ .ความหวังริบหรี่แล้ว               เสรี
อธิปไตยในฤดี                             ดับดิ้น
ริดรอนสิทธิ์ฤๅมี                          สุขแน่- แท้นา
เชื่อง"เชื่อ"ทุกข์จักสิ้น                   สุขล้นภิญโญ

๕. โมหะจริตปิดกั้น                     ปัญญา
อัดแน่นด้วยอัตตา                        ท่วมท้น
"วัฏจักร"แห่งเวลา                       "หมุนกลับ"
มหากาพย์เพียงเริ่มต้น                  ตื่นเต้นตกตะลึง

๖.พึงศิโรราบคาบแก้ว                  จำนง
"ปฏิวัติ"วัตรยังคง                        ภาพย้ำ
ประชาธิปไตยปลง                       เปลื่อยเปล่า
ประวัติศาสตร์"ซ้ำ"                      ซ่อนเร้นปริศนา

 ๗. ชนถวิลหา"ดอกไม้"               ห่อนใช่ ปลายปืน
ปลดปล่อยวิญญาณคืน                 ผ่องแผ้ว
ภราดรภาพยั่งยืน                         สงบสุข
"สันติภาพ"เพริศแพร้ว                 พรั่งพร้อมอรุณสมัย

………………………. (38. ยงยุทธ แก้ไขครั้งที่ 3)

 

39. มีนาวี
ส่งทางเว็บบอร์ด

ความสุข (39. มีนาวี)

๏ ความสุขไหนเลิศล้ำ... นำผล
เป็นมิ่งขวัญมงคล....... มนุษย์นั้น
มีอยู่ทุกแห่งหน.......... คนคิด
ชีวิตยาวหรือสั้น......... เร่งสร้างความดี

๏ สุขีมีอยู่ด้วย.......... เบญญา
แลสัพพะอัตตา......... ทั่วทั้ง
ขึ้นอยู่กับหัตถา......... เราท่าน ปั้นเนอ
ประมาทจักพลาดพลั้ง.. ยับยั้งชั่งใจ

๏ มองใครจงเลือกเฟ้น... สิ่งดี
ส่วนชั่วตัวเขามี.......... หลีกเว้น
ขาวดำก็ฉวี............... นวลพักตร์
เป็นประโยชน์โปรดเน้น.. อย่าลี้หนีหาย

๏ หญิงชายหมายมาดแม้น.. ปัจจุบัน
อดีดคือสิ่งผัน................ ล่วงแล้ว
อนาคตจรดพลัน............. ยังไป่ ถึงนา
ทำทุกอย่างเพริศแพร้ว...... ไม่แคล้วสุขศรี

๏ ฤดีมีวาดไว้....... ความหวัง
เสริมต่อก่อพลัง..... หล่อเลี้ยง
มุมานะปลูกฝัง...... แม้ทุกข์ ยากเนอ
ชีวิตจิตสุขเพี้ยง..... มากได้ใช่เข็ญ

๏ เห็นตนมีค่าล้ำ........ ดำรง
คนรักนักมั่นคง.......... แซ่ซ้อง
พ่อแม่แน่ประสงค์....... คือภัก ดีเนอ
เพื่อนสนิทพี่น้อง........ เกี่ยวข้องคล้องแขน

๏ ยากแค้นแต่มากด้วย...... ช่วยเหลือ
รู้อุดหนุนจุนเจือ............. โอบอ้อม
ห่วงนิดคิดถามเขือ.......... เผื่อแผ่
ใช่ทรัพย์กลับเพรียบพร้อม.. อุ่นเนื้อเชื่อไหม

๏ สุขใดใช่เหนี่ยวรั้ง..... หวังเจอ
พานพบอยู่เสมอ......... ทุกครั้ง
บนบานท่านละเมอ...... เพ้อพก
หยิบยกพกไป่ยั้ง........ ยากแท้แก้ไข

๏ สงสัยสุขจักได้...... สมจินต์
ชีพดับลับฝังดิน........ มอดแล้
จากไปใคร่ถวิล........ บุญส่ง
ชีวิตคิดถ่องแท้........ เท่านี้ฤาไฉน ๚ะ๛

………………………. (39. มีนาวี)

 

40. สุมินทร์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข
ส่งทางเว็บบอร์ด

ความสุขต่างนิยาม (40. สุมินทร์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

....................สุขสามัญ...............

.....สรรพ์ชีพในโลกหล้า..........สกลกาย
ทุกชีพต่างก้อหมาย...............สุขพร้อม
กำจัดทุกข์ให้มลาย................สืบเสาะ สุขนา
ใจกายสรรพสุขล้อม...............โอบเอื้อคือหวัง

.....สุขกายเกิดแต่ห้วง............ขุมทรัพย์
โรคไม่รุมล้อมจับ....................ใส่ไข้
สุขใจหากจิตรับ.....................ธรรมรส เย็นแฮ
รู้ผ่อนหนักเบาได้...................จิตจ้าสว่างธรรม

.....วัยเด็กเร่งรับรู้..................สรรพวิชา
วัยหนุ่มเร่งแสวงหา...............ทรัพย์ไว้
อีกกายจิตแข็งกล้า................หลีกเลี่ยง กลอบาย
สามสิ่งนี้ทำได้.......................สุขแท้ทางกาย

.....สุขใจเกิดจากห้อง.............หัวใจ
รับธรรมช่วยขัดไคล...............คราบร้าย
จิตนิ่ง สงบ สงัดไว้.................ทนทุกข์ ยากแฮ
ใจเปี่ยมสุขทุกข์ย้าย...............หลีกลี้หนีไป

.....วัยเด็กเร่งฝึกรู้..................เรียนธรรม
วัยหนุ่มฝึกน้อมนำ.................ปรับใช้
ดีชั่วบาปบุญกรรม.................ส่งสุข ทุกข์นา
ยึดมั่นหลักธรรมไว้................สุขแท้ทางใจ

................สุขขั้นปรมัตถ์.......

......สุขสามัญกิเลสกั้น...........บังตา ตนแล
มองผ่านม่านหมอกหนา.......มากชั้น
จึงภาพหม่นมัวพร่า.............ผิดพร่อง จริงแฮ
ปรมัตถสุขนั้น.....................สุขแท้นิพพาน

.....สุขที่เรากล่าวอ้าง...........ว่าสุข สุขนา
แท้ซุกซ่อนความทุกข์..........แนบข้าง
ความไม่เที่ยงโรมรุก............เป็นระรอก
อนัตตามามล้าง...................สุขไร้ภัยมี

.....จึงพระพุทธเจ้า..............ค้นพบ
ความสัจเบิกแนวรบ...........กิเลสร้อน
ชี้บอกอาวุธสยบ.................มารมาก มายแล
อริยสัจจ์มรรคเทียบซ้อน.....เบิกหน้ารุกไกล

.....รู้จักทุกข์สะท้อน............ทันการณ์
รู้เหตุก่อทุกข์หาญ..............ยึดไว้
รู้นิโรธดับกิเลสราน.............สภาพ ดับแฮ
รู้มรรคแป็ดประเสริฐไซร้.....เปิดเส้นทางเดิน

.....เห็นชอบคิดชอบแท้.......เป็นทุน
พูดชอบงานชอบหนุน.........ส่งไว้
อาชีพ-เพียรชอบจุน...........หนุนส่ง
สติสมาธิชอบฝึกได้.............สุขแท้ดับสกนธ์

………………………. (40. สุมินทร์ ส่งครั้งแรก มีแก้ไข)

 

41. สุมินทร์ แก้ไขครั้งที่ 1
ส่งทางเว็บบอร์ด

ความสุขต่างนิยาม (41. สุมินทร์ แก้ไขครั้งที่ 1)

...........สุขสามัญ.......

....สรรพ์ชีพในโลกหล้า.........สกลกาย
ทุกชีพต่างก้อหมาย.............สุขพร้อม
กำจัดทุกข์ให้มลาย..............สืบเสาะ สุขนา
ใจกายสรรพสุขล้อม............โอบเอื้อคือหวัง

.....สุขกายเกิดแต่ห้วง.........ขุมทรัพย์
โรคไม่รุมล้อมจับ.................ใส่ไข้
สุขใจหากจิตรับ..................ธรรมรส เย็นแฮ
รู้ผ่อนหนักเบาได้...............จิตจ้าสว่างธรรม

.....วัยเด็กเร่งรับรู้..............สรรพวิชา
วัยหนุ่มเร่งแสวงหา..........ทรัพย์ไว้
อีกกายจิตแข็งกล้า...........หลีกเลี่ยง กลอบาย
สามสิ่งนี้ทำได้..................สุขแท้ทางกาย

สุขใจเกิดจากห้อง.............หัวใจ
.....รับธรรมช่วยขัดไคล......คราบร้าย
จิตนิ่ง สงบ สงัดไว้.............ทนทุกข์ ยากแฮ
ใจเปี่ยมสุขทุกข์ย้าย..........หลีกลี้หนีไป

วัยเด็กเร่งฝึกรู้..................เรียนธรรม
......วัยหนุ่มฝึกน้อมนำ......ปรับใช้
ดีชั่วบาปบุญกรรม............ส่งสุข ทุกข์นา
ยึดมั่นหลักธรรมไว้...........สุขแท้ทางใจ

.................สุขขั้นปรมัตถ์.......

.....สุขสามัญกิเลสกั้น.......บังตา ตนแล
มองผ่านม่านหมอกหนา...มากชั้น
จึงภาพหม่นมัวพร่า...........ผิดพร่อง จริงแฮ
ปรมัตถสุขนั้น.................สุขแท้นิพพาน

......สุขที่เรากล่าวอ้าง......ว่าสุข สุขนา
แท้ซุกซ่อนความทุกข์......แนบข้าง
ความไม่เที่ยงโรมรุก........เป็นระลอก
อนัตตามามล้าง..............สุขไร้ภัยมี

.....จึงพระพุทธเจ้า..........ค้นพบ
ความสัจเบิกแนวรบ.......กิเลสร้อน
ชี้บอกอาวุธสยบ............มารมาก มายแล
อริยสัจจ์มรรคเทียบซ้อน....เบิกหน้ารุกไกล

.....รู้จักทุกข์สะท้อน........ทันการณ์
รู้เหตุก่อทุกข์หาญ..........ยึดไว้
รู้นิโรธดับกิเลสราน........สภาพ ดับแฮ
รู้มรรคแปดประเสริฐไซร้.....เปิดเส้นทางเดิน

.....เห็นชอบคิดชอบแท้.......เป็นทุน
พูดชอบงานชอบหนุน.........ส่งไว้
อาชีพ-เพียรชอบจุน............หนุนส่ง
สติสมาธิชอบฝึกได้..............สุขแท้ดับสกนธ์

……………………….  (41. สุมินทร์ แก้ไขครั้งที่ 1)

 

42. ณ คะนึง
ส่งทางเว็บบอร์ด

สรรพสุข (42. ณ คะนึง)

๏ สุขใดพิสุทธิ์แล้           หลากแสวง         
แลสว่างสางแสดง                       เด่นแก้ว             
ดังเกิดประทีปแสง          ใสสงบ
สุขสง่าผาสุกแล้ว                        เลิศล้ำแลเสลา ฯ

 ๏ เบาราณเก่าเล่าไว้                    เวี่ยฟัง
เกิดสุขบำเทิงยัง             หยาบแท้
พอเพียงเยี่ยงฉมัง            มนต์สว่าง
โศกสร่างวางจิตแล้                      ละเอียดล้ำทำนอง ฯ

 ๏ มองธรรมชาติค้น        คณนา
สูงสุดผุดภูผา                 พ่างโพ้น
ลึกดำดิ่งพสุธา                            ถึงนรก      
สรรพสุขเนาโน้น             ขนบนี้นับผะสา ฯ                                                                                                                     

๏ กินปลาตัวหนึ่งนั้น      นานนาน
แกงแบ่งลูกแจกหลาน     เหล่าพ้อง
กินพออยู่ประมาณ           ปันสุข  กันเอย                             
ปันแบ่งจุนเจือคล้อง       คละคล้องสนองสม ฯ

 ๏ ชมเชยเงยชะเง้อ          งามจันทร์
แลสุขโลมสวรรค์           สวาทเคลิ้ม
ดวงตาส่อหวนหัน           เห็นจริต
ดวงจิตยลยะเยิ้ม                          ยะยิ้มอิ่มหวาม ฯ

๏ เรือนสามน้ำสี่คุ้ม         เคียงหญิง
ปางเสน่ห์สตรีอิง             เอ่ยอ้าง
ศรีเรือนพึ่งเพิงพิง           เพรียงสุข
รอยเสน่ห์มิลาร้าง            พ่างเหย้าเนาเรือน ฯ

๏ สุขเสมือนเดือนคู่ฟ้า     สุกใส
เสมือนสุขบริวารใจ        ไป่สิ้น
แสงสว่างพรางไกล          ใกล้จิต
เสกสุขตราบด่าวดิ้น         ด่ำด้วยมนต์ขลัง ฯ

๏ นกน้อยรังนิดน้อย         พอตัว
เคียงคู่คงเมียผัว                           ผ่ายแผ้ว
หากินบ่เกรงกลัว             กลางเถื่อน
สุจริตก็สุขแล้ว                ลุรู้พอเพียง ฯ

๏ เสบียงสุขสืบเหย้า       เหล่ากา
หงส์ก็ตามประสา           สืบเชื้อ
สรรพสัตว์ปรารถนา       ศานติ
อุตริสนองเลือดเนื้อ          มนุษย์นี้สุขไฉน ฯ

๏ สุขใดอวยเอิบเอื้อ         เองกมล
อาบสติพิบูลผล               ผลิตรู้
เจริญสติมิสับสน             สรรพสุข
ใจสว่างบ่คดคู้                 คู่ไว้ใจแสวง ฯ

……………………….  (42. ณ คะนึง)

 

43. ชูศักดิ์  
ส่งทางไปรษณีย์

ความสุข (43. ชูศักดิ์)

มนุษย์ในโลกนี้                            นานมา
กินอยู่แสวงหา                                        สุขด้วย
ส่ำสัตว์ย่อมปรารถนา                              ความสุข
เกิดแก่เจ็บตายมอดม้วย                            หมดนั้นนิจกาล

สานสวัสดิ์สว่างให้                      ชีวิต
สานสุขสบประสิทธิ์                                ประเสริฐพร้อม
สานธรรมะวิจิตร                                                บรรเจิด
สานซึ่งคุณธรรมล้อม                               รักด้วยความดี

ทวีผลดลสุขให้                            ชีวิน
เสริมชาติด้วยศาสตร์ศิลป์                         สง่าด้าว
สรรค์สุขเพื่อปฐพิน                                  ภพผ่อง
ทั่วพสุธาอะคร้าว                                    อะเคื้อเจือใจ

สงบในจิตคล้อง                          คลองธรรม
ครองสุขปลุกจิตนำ                                  สวัสดิ์ถ้วน
สุขชาติสุขราษฎร์กำ-                               หนดเนื่อง
มนุษย์ในโลกล้วน                                    หลากล้อวิชา

นำชีวาสุขด้วย                            ทำดี
ความรักสามัคคี                                      เวี่ยไว้
สัมพันธ์มั่นไมตรี                         สืบต่อ
โลกสบสันติสุขได้                                    แน่แท้ทุกกยาม

ความสุขนั้นเกิดได้                       ด้วยตน
นำจิตกอบกุศล                                        สุทธิแผ้ว
สุขอย่างยิ่นิพพานดล                                สุขสงบ
ดับทุกข์ด้วยธรรมแล้ว                              คลาดแคล้วบ่วงมาร

……………………….  (43. ชูศักดิ์)

 

44. กฤษณพล  
ส่งทางไปรษณีย์

ความสุข (44. กฤษณพล)

ความสุขบอกบ่งได้          เสกสรร
สุขที่จิตใจฝัน                              ใฝ่สร้าง
ภายในไป่แปรผัน             เป็นอื่น
เย็นลุ่มลึกในว้าง                          ดั่งน้ำค้างหยด

เสียงรูปรสกลิ่นนี้ สัมผัส
เสพสื่อสารสารพัด                      เยี่ยงนั้น
สุขความไม่สงบสงัด                    เงียบนิ่ง
เพียงชั่วโมงยามสั้น                      กว่าห้วงหฤหรรษ์

วันคืนในค่ำเช้า               จรดสาย
เกิดแก่เจ็บเจียนตาย                     แกล่ใกล้
ดับ-เกิดบ่เหือดหาย                      ทุกเมื่อ
สุขเมื่อใจรับได้                            สิ่งนั้นพลันถึง

จึงเป็นอยู่หยั่งรู้                สุขเสมอ
เห็นอยู่พบพรากเจอ                     เท่านั้น 
จิตใจไม่ไผลเผลอ             เป็นอยู่
ชีพหนึ่งจึงแสนสั้น                      แต่สร้างเถิดกุศล

คุณ,เธอ คนนี่นั้น             ผม,ฉัน
รูปหนึ่งนามคืนวัน                       หนึ่งข้าม
ทางสายเปลี่ยวเหลียวหัน              แลผ่าน  พบฤๅ
โมงชั่วยามเดียวคร้าม-                 ครั่นข้ามขวากหนาม

รูปนามโฉมนั่นนี้ อาศัย
เงียบลุ่มลึกจิตใจ                          อะเคื้อ
เยียบเย็นดั่งหยาดใส                     หยดร่วง
เพียงชั่วโมงยามเอื้อ                     เมื่อน้ำค้างระเหย

……………………….  (44. กฤษณพล)

 

45. ธงชัย
ส่งทางไปรษณีย์

สุข (45. ธงชัย)

สุขร้อน

๏ มนุษย์ชาติช่างเฉื้อ                    นัยนา
พิศพ่างภาพลวงตา                      แต่งแต้ม
เติมเต็มสิ่งปรารถนา                    ในมนัส

เห็นจักรเป็นบัวแย้ม                 หยิบหยื้นภยันตราย

๏ เจียนวางวายอาจแจ้ง                สัจธรรม
สุขซ่อนทุกข์แซมกรรม                เที่ยงแท้

เห็นแก่อัตตามอำ-                    เภอจิต
เห็นผิดเป็นชอบแล้                   สุขล้นฤๅไฉน

๏ โสมนัสภัยแผดร้อน                  รุนแรง
โลภจริตสุมเพลิงแซง                   แทรกไต้
กลกิเลสลุกสำแดง                       เดชชั่ว
เผาผ่าวอกหมกไหม้                    
สุขร้อนเล็งเห็น

สุขเย็น

๏ เข็ญกายกลายสุขล้ำ                  ลางคน
เพราะสติตริตรองตน                    ต่ำต้อย
ห่อนหลงเล่ห์มารมน                    มักใหญ่

พอจิตเป็นสุขน้อย                    มากไหม้สำคัญ

๏ ยามสุขปันสุขให้                      สาธารณ์
ยามทุกข์อย่าทุกข์พาล                  อดกลั้น
บ เบียนเบียดสุขศานต์                  สัตว์โลก
แลยึดคุณธรรมหมั้น                     ชีพนั้นเนาเกษม

๏ ปรีดิ์เปรมเป็นสิ่งล้วน               เลวดี
ดังดาบสองคมมี                          ชั่วช้า
อีกคุณค่าเป็นศรี                          เป็นสุข เย็นเฮย
สถิตสู่สรรพสัตว์ถ้า                     ถ่องแท้ทางสุโข

เดช (ป.เตช). น. ไฟ

ไต้ น. ของใช้สำหรับจุดไฟให้สว่าง หรือทำเชื้อเพลิง ทำด้วยไม้ผุหรือเปลือกเสม็ดคลุกกับน้ำมันยาง แล้วห่อด้วยใบไม้ เป็นดุ้นยาวๆ หรือใส่กระบอก

……………………….  (45. ธงชัย)




โคลงสี่สุภาพ 2557

ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ ความว่างเปล่า
ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป (โคลงสี่สุภาพ) : หัวข้อ “ความทุกข์”



bulletผลร้อยกรองออนไลน์ 2558
dot
ประกวดร้อยกรองออนไลน์ครั้งที่ 7
dot
bulletข้อมูลการประกวดครั้งที่ 7, 2557
bulletผังร้อยกรอง
bulletอ่านโคลงประกวด 2557
bulletอ่านกลอนประกวด 2557
bulletอ่านกาพย์ยานีประกวด 2557
bulletผลการประกวดร้อยกรอง ปี 2557
dot
ข่าวสาร ข้อมูลสมาคม
dot
bulletกรรมการสมาคมสมัยที่ ๑๕-๑๖
bulletนายกสมาคมสมัยที่ ๑๗
bulletติดต่อนายกสมาคมนักกลอน
bulletติดต่อฝ่ายดูแลส่วนต่างๆ
bulletสมัครสมาชิกสมาคมนักกลอน
bulletนักกลอนตัวอย่าง ๒๕๕๓
dot
หัวข้อน่าสนใจ
dot
bulletรวมลิ้งค์เว็บไซต์น่าสนใจ
bulletส่งบทสักวา น.ส.พ. สยามรัฐ
bulletวารสารวิทยาจารย์ รับต้นฉบับ
bulletส่งข้อเขียนครูในดวงใจ
dot
แนะนำหนังสือ
dot
bulletหน้ารวมหนังสือ
bulletคู่มือเรียนเขียนกลอน
bulletกาสรคำฉันท์ - สมคิด สิงสง
bulletหนังสือสุรินทร์สโมสร
bulletฝากโลกนี้ไว้ในหัวใจเธอ - กอนกูย
bulletเลือน - อติภพ
bulletธาร ธรรมโฆษณ์
bulletนายทิวา
bulletกลอนเกียรติยศ
bulletอ้อมกอดแห่งท้องทุ่ง
bulletทองแถม นาถจำนง
bulletพงศาวดารพิภพ
bulletโป๊ยเซียน คะนองฤทธิ์
dot
โครงการประกวดต่างๆ
dot
bulletนายอินทร์อะวอร์ด ๒๕๕๖
bulletประกวดรางวัลซีไรท์ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๕๖
bulletรางวัลวรรณกรรมรามคำแหง ๒๕๕๖
dot
ผลตัดสินรางวัลต่างๆ
dot
bulletรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletผลรางวัลซีไรต์ ๒๕๕๗
bulletผลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ๒๕๕๗
bulletผลรางวัลแว่นแก้ว ๗ (๒๕๕๓)
bulletผลกลอนวิถีคนกับควาย
bulletผลร้อยกรอง “ผมจะเป็นคนดี”
bulletรางวัลนราธิป ๒๕๕๓
bulletนักเขียนอมตะ คนที่ ๖ (๒๕๕๕)
bulletนักเขียนรางวัลศรีบูรพา ๒๕๕๖
bulletศิลปินมรดกอีสาน ๒๕๕๔
bulletผลรางวัลพานแว่นฟ้า ๒๕๕๕
bulletผลรางวัลรามคำแหง ๒๕๕๖
bulletศิลปินแห่งชาติ ๒๕๕๕
bulletผลประกวดหนังสือ ชีวิตใหม่ 2
dot
ข่าวคราวของลมหายใจ
dot
dot
Weblink
dot
bulletอ่านกลอนประกวด 2556

หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย มศว
เว็บรวมกระทู้ อาศรมชาวโคลง ใน pantip.com
หนังสืออีศาน


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ติดต่อ นายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ทองแถม นาถจำนง
โทรศัพท์ ๐๘๙-๑๒๓๔๗๕๔ อีเมล์ tongtham.n@hotmail.com

สำนักพิมพ์แม่โพสพ